กรมกิจการเด็กและเยาวชน ร่วมกับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จับมือ MOU ส่งเสริมให้มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ กรมกิจการเด็กและเยาวชน ร่วมกับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ส่งเสริมให้มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ โดยมีนางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน และนางสาวสุนัน เพชรชู ผู้ตรวจราชการ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นผู้ลงนาม มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ, ให้พนักงานลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ ไม่มีความเครียด ไม่กังวลในการจัดการดูแลบุตร ครอบครัวอบอุ่น มีความสุขในการทำงาน ทำงานได้อย่างมีคุณภาพ รักองค์กร และผู้ประกอบกิจการมีความสัมพันธ์อันดีกับพนักงาน ลูกจ้าง ผลผลิตการทำงานสูงขึ้น รวมทั้ง ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยที่เข้ารับบริการในศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ ได้รับการดูแลพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ให้มีพัฒนาการสมวัยทั้งด้านร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมพิธีลงนามฯ ประกอบด้วย ผู้ประกอบกิจการภาครัฐและเอกชน และผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Cloud Meeting รวมทั้งสิ้น 165 คน

นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า ในพิธีลงนามความร่วมมือครั้งนี้ มีกิจกรรมบรรยายพิเศษ หัวข้อ “การแบ่งเบาภาระในการเลี้ยงดูบุตรของลูกจ้าง และลดความวิตกกังวล มีความมั่นใจส่งผลให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง”, หัวข้อ “การสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ดูแลเด็ก ให้มีศักยภาพในการดูแล พัฒนา และส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็กปฐมวัยที่เข้ารับบริการให้มีพัฒนาการสมวัย รวมทั้งมีการบรรยายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

นางอภิญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ เป็นการประสานความร่วมมือ สนับสนุน ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ในสถานประกอบกิจการเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระในการเลี้ยงดูบุตรของลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงานลดความวิตกกังวล และมีความมั่นใจส่งผลให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง ที่สำคัญคือช่วยให้เด็กที่เป็นบุตรของลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน ได้รับการอุปการะเลี้ยงดู ปกป้องคุ้มครอง ให้ปลอดภัย มีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยและเติบโตอย่างมีคุณภาพ

ในส่วนของกรมกิจการเด็กและเยาวชน มีหน้าที่สนับสนุน ดังนี้
1. พิจารณาการอนุญาตให้จัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กหรือรับจดแจ้งศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ในสถานประกอบกิจการ
2. ตรวจเยี่ยม ให้คำแนะนำ เพื่อให้การดำเนินงานของสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการเป็นไปอย่างมีคุณภาพ
3. สนับสนุนการดำเนินงานของสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ
4. ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กปฐมวัยของสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ

ตลอดจนการให้องค์ความรู้ด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยแก่ผู้ดูแลเด็กให้มีความรู้ความสามารถในการดูแลเด็ก ซึ่งเด็กปฐมวัยเป็นช่วงวัยที่สำคัญที่สุดและพัฒนาการของเด็กขึ้นอยู่กับการกระตุ้นและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมถึง ผู้ดูแลเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกประเภทต้องจัดกิจกรรมหรือจัดประสบการณ์ส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็กตามช่วงวัย รวมถึงคุณภาพการเลี้ยงดูทำให้เด็กมีพัฒนาการสมวัย ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา นางอภิญญา กล่าวทิ้งท้าย