มกอช. เจรจาเกษตรฯ ญี่ปุ่น เร่งเปิดตลาดส่งออกส้มโอ-มะม่วงไทยทุกสายพันธุ์

มกอช. จับมือกรมวิชาการเกษตร เจรจาญี่ปุ่นขอให้ยกเลิกการจำกัดสายพันธุ์ส้มโอ-มะม่วงไทย ให้สามารถส่งออกไปญี่ปุ่นได้ทุกสายพันธุ์

นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นประธานฝ่ายไทย ในการเจรจาด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชและความปลอดภัยอาหาร ร่วมกับคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมการข้าว และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประชุมหารือร่วมกับผู้แทนระดับสูงของญี่ปุ่นจากกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง (MAFF) กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ (MHLW) สำนักงานกิจการผู้บริโภค (CAA) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ประจำประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ในการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมในความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหาร ภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ครั้งที่ 14

นายพิศาล กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการเจรจาขอให้ญี่ปุ่นยกเลิกการจำกัดสายพันธุ์ส้มโอของไทยที่ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2562 โดยฝ่ายญี่ปุ่นได้แจ้งยอมรับข้อมูลทางวิชาการและผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร และได้แจ้งยืนยันกรอบเวลาการดำเนินงานเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นตกลงที่จะเร่งจัดทำเงื่อนไขการนำเข้าส้มโอทุกสายพันธุ์ของไทยไปยังญี่ปุ่นด้วยวิธีการอบไอน้ำเพื่อเสนอให้กรมวิชาการเกษตรพิจารณา พร้อมแจ้งว่าจะเร่งกระบวนการในลำดับถัดไปในการหาข้อสรุปร่วมกันต่อเงื่อนไขการส่งออกและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของฝ่ายญี่ปุ่นให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อนำไปสู่การประกาศอนุญาตนำเข้าส้มโอทุกสายพันธุ์จากประเทศไทยต่อไป

ในโอกาสนี้ ฝ่ายไทยยังใช้แนวทางเดียวกันในการเจรจาเพื่อขอส่งออกมะม่วงไปยังญี่ปุ่นโดยไม่จำกัดสายพันธุ์ จากเงื่อนไขเดิมที่ส่งออกได้เพียง 7 สายพันธุ์ ได้แก่ เขียวเสวย โชคอนันต์ หนังกลางวัน น้ำดอกไม้ พิมเสนแดง แรด และมหาชนการ โดยฝ่ายญี่ปุ่นยืนยันว่าจะเริ่มพิจารณาข้อมูลมะม่วงของไทยทันทีหลังจากที่พิจารณาเงื่อนไขของส้มโอเสร็จสิ้น นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือหารือกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารของทั้งสองประเทศ และผลักดันการเปิดตลาดร่วมกัน อาทิ มะม่วงของไทย ส้มของญี่ปุ่น โดยฝ่ายญี่ปุ่นได้แสดงความขอบคุณฝ่ายไทยเช่นเดียวกันที่จะเร่งพิจารณาเงื่อนไขอนุญาตนำเข้าส้มสายพันธุ์ยูสุและคัมควอทของญี่ปุ่นเพิ่มเติมไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ การประชุมคณะอนุกรรมการพิเศษร่วมในความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหาร ภายใต้กรอบ JTEPA ยังครอบคลุมการหารือโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกัน ซึ่งครั้งนี้ MAFF และ MHLW ได้ตกลงที่จะดำเนินความร่วมมือและประสานงานกับฝ่ายไทยต่อไปในทั้ง 5 โครงการที่ฝ่ายไทยเสนอ ได้แก่ มาตรการควบคุมการนำเข้าและการเรียกคืนสินค้าเกษตรและอาหาร การแปรรูปและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์นม การวิจัยและควบคุมคุณภาพวัคซีนสำหรับสัตว์ และการควบคุมกำกับเทคโนโลยีชีวภาพอาหาร โดยจะนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของไทยและและผูกความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ผลสัมฤทธิ์ของการเจรจาครั้งนี้ ถือเป็นการลดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกทางการค้า ที่จะนำไปสู่การขยายการส่งออกส้มโอไทยไปสู่ญี่ปุ่น และสร้างโอกาสทางการค้าของผลไม้ไทยในตลาดต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกรชาวสวนส้มโอของไทย โดย มกอช. และกรมวิชาการเกษตรพร้อมจะผนึกกำลัง ผลักดันและดำเนินงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับญี่ปุ่นในเรื่องนี้ ให้ประเทศไทยสามารถส่งออกส้มโอทุกสายพันธุ์ไปยังญี่ปุ่นได้โดยเร็วที่สุด

“มกอช. มีความพร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของไทยทุกภาคส่วน เพื่อเป็นทีมไทยในการเจรจาผลักดันให้สินค้าเกษตรและอาหารของไทยสามารถขยายการส่งออก มีความสามารถในการแข่งขัน และได้รับการยอมรับในคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล” เลขาธิการ มกอช. กล่าว