กรมวิทย์ฯ เผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ย้ำวัคซีนมีประสิทธิภาพสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ในเขตซีกโลกเหนือระบาดมากในช่วงฤดูหนาว ส่วนซีกโลกใต้ระบาดมากในฤดูฝน สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน ทั่วโลกพบไข้หวัดใหญ่ ชนิด A(H3N2) ไข้หวัดใหญ่ ชนิด A(H1N1) pdm09 และไข้หวัดใหญ่ ชนิด B (Victoria Lineage) เป็นสาเหตุของการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ผลการวิเคราะห์สารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และตรวจจำแนกสายพันธุ์โดยการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมในปัจจุบันจากทั่วโลก พบว่า

– ไข้หวัดใหญ่ ชนิด A(H3N2) มีสัดส่วน 43% เป็น clade 3C.2a1b.2a.2a.3a.1 คิดเป็น 67.5%

– ไข้หวัดใหญ่ ชนิด A(H1N1) pdm09 มีสัดส่วน 29% เป็น clade 6B.1A.5a.2a คิดเป็น 86.21%

– ไข้หวัดใหญ่ ชนิด B (Victoria Lineage) มีสัดส่วน 26% เป็น Victoria clade VIA.3a.2 คิดเป็น 100%

สำหรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย พบว่า ไข้หวัดใหญ่ ชนิด A(H3N2) มากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 38.90% รองลงมา คือ ไข้หวัดใหญ่ ชนิด B (Victoria Lineage) มีสัดส่วน 37.26% และไข้หวัดใหญ่ ชนิด A(H1N1) pdm09 มีสัดส่วน 23.84%

นายแพทย์ยงยศ กล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย (1 ตุลาคม 2566 – พฤษภาคม 2567) ด้วยการประยุกต์ใช้เทคนิค Whole genome sequencing วิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมทั้งจีโนม และประเมินความสอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ พบว่า ส่วนใหญ่มีความสอดคล้องกับสายพันธุ์ในวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หลักที่กำลังระบาดในขณะนี้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

– ไข้หวัดใหญ่ ชนิด A(H1N1) pdm09 สายพันธุ์ 6B.1A.5a.2a มีสัดส่วน 93.06% ซึ่งพบเป็นสายพันธุ์หลักมีความสอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ A/Sydney/5/2021 (H1N1) pdm09-like virus ที่กลุ่มเป้าหมายตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ได้รับเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยเป็นสายพันธุ์วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อ้างอิงจากวัคซีน สำหรับประเทศทางซีกโลกใต้

– ไข้หวัดใหญ่ ชนิด A(H3N2) สายพันธุ์ 3C.2a1b.2a.2a.3a.1 มีสัดส่วน 100% ซึ่งสอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปี 2567 ชนิด egg-based A/Thailand/8/2022 (H3N2)-like virus

– ไข้หวัดใหญ่ ชนิด B จัดอยู่ในกลุ่ม (Victoria Lineage) clade V1A.3a.2 คิดเป็น 99.61% สอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทั้งแบบ quadrivalent และ trivalent สำหรับสายพันธุ์ B/Yamagata lineage ไม่พบในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา

สำหรับผลการวิเคราะห์ตำแหน่งการกลายพันธุ์บนยีน Neuraminidase (NA) ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบในประเทศไทย ช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 จำนวน 35 ตัวอย่าง (อ้างอิงข้อมูลตำแหน่งการกลายพันธุ์จากองค์การอนามัยโลก ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ไม่พบยีนบ่งชี้การดื้อยา

“ทั้งนี้ การเฝ้าระวังโรคและการติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่มีความสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบอุบัติการณ์แนวโน้มการระบาดใหญ่ การกลายพันธุ์ และการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ที่ต่างไปจากเดิม เพื่อวางมาตรการการควบคุมและป้องกันโรคได้อย่างเหมาะสมและทันเหตุการณ์ และวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หลักที่กำลังระบาดในขณะนี้ ขอให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี ควบคู่กับการดูแลป้องกันตนเอง ด้วยการล้างมือบ่อยๆ ไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดและหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่สะดวกเป็นเวลานาน หากสงสัยว่ามีอาการป่วย แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง” นายแพทย์ยงยศ กล่าวทิ้งท้าย