กฟผ. ร่วมกับ บีไอจี เดินหน้าศึกษาพัฒนาศักยภาพการจัดเก็บและขนส่งไฮโดรเจนสำหรับผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าของ กฟผ. หวังเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emission
วันที่ 11 มิถุนายน 2567 นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และนายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจงานศึกษาศักยภาพการจัดเก็บและขนส่งไฮโดรเจน สำหรับโครงการ Hydrogen Blending Demonstration ณ โรงไฟฟ้าของ กฟผ. เพื่อร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ และประเมินศักยภาพการจัดเก็บและขนส่งไฮโดรเจนสำหรับใช้ในการผลิตไฟฟ้า ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. มุ่งเดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้า เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของประเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน โดยมีแผนนำไฮโดรเจนมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าร่วมกับก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคการผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งความร่วมมือระหว่าง กฟผ. กับบีไอจีในครั้งนี้มีระยะเวลาความร่วมมือรวม 2 ปี โดยจะร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ และประเมินศักยภาพการจัดเก็บและขนส่งไฮโดรเจนเพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมในการผลิตไฟฟ้าในโครงการ Hydrogen Blending Demonstration กับโรงไฟฟ้าศักยภาพของ กฟผ. ทั้งในด้านวิศวกรรม การประเมินต้นทุนค่าใช้จ่าย วิเคราะห์ความเป็นไปได้ด้านเศรษฐศาสตร์ และเสนอรูปแบบการจัดเก็บและขนส่งเชิงธุรกิจที่เหมาะสม รวมถึงผลกระทบ ความเสี่ยง และมาตรการรองรับต่อผู้มีส่วนได้เสียในทุกมิติ
นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวว่า บีไอจีเดินหน้านำนวัตกรรมจากไฮโดรเจนที่บีไอจีและแอร์โปรดักส์ บริษัทแม่ของบีไอจีจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความชำนาญและเป็นผู้ลงทุนโครงการกรีนไฮโดรเจนรายใหญ่ที่สุดของโลก บีไอจีตระหนักถึงการใช้พลังงานสะอาดเพื่อร่วมผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในประเทศไทยภายใต้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ GENERATING A CLEANER FUTURE ด้วยการผลักดันการผลิตและการใช้ประโยชน์จากพลังงานไฮโดรเจน ซึ่งเป็นหนึ่งใน Climate Technology เป็นแรงสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การร่วมมือศึกษาพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจนนี้ยังสามารถตอบสนองแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ในการนำเอาไฮโดรเจนมาใช้ผลิตไฟฟ้าครั้งแรกในประเทศไทยและนับว่าเป็นการผลิตไฟฟ้าทางเลือกในการใช้เชื้อเพลิงสะอาด รวมถึงไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำจากบีไอจีที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (CFP) จากองค์กรบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ว่า ปล่อยคาร์บอนลดลงร้อยละ 95 เทียบเท่าการผลิตบลูไฮโดรเจน ดังนั้นไฟฟ้าที่ได้จากการนำไฮโดรเจนมาใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้านี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการผลักดันการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียวตอบโจทย์เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของประเทศในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ในปี ค.ศ. 2065