พด. ชวนเกษตรกร ตรวจดินก่อนปลูก ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต

นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ดินเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลิตทางการเกษตรดินที่ดีควรมีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การวิเคราะห์ตรวจสอบธาตุอาหารในดินจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อให้สามารถใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินได้อย่างแม่นยำ และเพื่อให้ได้ดินที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกพืช โดยในปี 2566 มีเกษตรกรสนใจขอรับบริการตรวจวิเคราะห์ดินไม่ต่ำกว่า 15,000 ราย กรมพัฒนาที่ดินจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ที่ดินของตนเองได้อย่างเหมาะสมตรงตามศักยภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยอำนวยความสะดวกด้านการเกษตรตามนโยบายของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านบริการ “e-Service ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตร”

สำหรับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจขอรับบริการตรวจวิเคราะห์ดิน โดยปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดินให้บริการ จำนวน 13 แห่งทั่วประเทศ สามารถขอรับบริการได้ง่ายเพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน “https://osd101.ldd.go.th/osdlab/” บันทึกรายละเอียดของดินที่ต้องการวิเคราะห์ ข้อมูลผู้ส่งตัวอย่าง พิกัดที่อยู่ของแปลงพื้นที่เก็บตัวอย่าง และระบุชนิดพืชที่ต้องการปลูก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและยืนยันใบส่งตัวอย่างดิน เพื่อให้ผู้ขอรับบริการส่งตัวอย่างดินผ่านไปรษณีย์ไปยังห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดินที่เลือกขอรับบริการ โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวอย่างดินไปตรวจหาปริมาณธาตุอาหารหลักที่สำคัญ เช่น ปริมาณฟอสฟอรัส (P) ปริมาณโพแทสเซียม (K) ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (OM) รวมถึงความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) เพื่อนำผลวิเคราะห์ที่ได้ไปใช้ในการให้คำแนะนำในการปรับปรุงบำรุงดินและอัตราการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมตามชนิดพืชที่ปลูก เกษตรกรจะได้รับรายงานผลวิเคราะห์ดินภายใน 30 วันทำการ นับจากวันที่ได้รับตัวอย่างดินผ่านระบบ e-Service ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตร ช่องทางไปรษณีย์ หรือรับผลวิเคราะห์ดินได้ด้วยตนเองที่ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดินที่ขอรับบริการ โดยสามารถนำคำแนะนำที่ได้ไปปรับใช้ในพื้นที่ทำการเกษตรเพื่อให้ดินมีความเหมาะสมสำหรับพืชที่ต้องการปลูกได้ ส่งผลทำให้พืชเจริญเติบโตดี และลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยที่เกินความจำเป็น สามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และใช้ทรัพยากรดินอย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป

อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากบริการ e-Service ตรวจสอบดินเพื่อการเกษตรที่ตรวจวิเคราะห์ดินทางห้องปฏิบัติการแล้ว กรมพัฒนาที่ดินยังเพิ่มช่องทางการให้บริการตรวจวิเคราะห์ดินในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และครอบคลุมพื้นที่ เพื่อเป็นทางเลือกในการขอรับบริการที่หลากหลาย โดยเป็นการตรวจวิเคราะห์ดินอย่างง่ายด้วยชุดตรวจสอบดิน (LDD Test Kit) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตรวจวิเคราะห์ดินภาคสนาม ได้แก่ ความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ปริมาณธาตุอาหารหลักของพืช (NPK) และค่าความเค็มของดิน (EC) เพื่อทราบผลวิเคราะห์ดินเบื้องต้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ในการประเมินศักยภาพของดินก่อนการเพาะปลูกต่อไป โดยเกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการตรวจวิเคราะห์ดินอย่างง่ายได้ที่หมอดินอาสาของกรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1-12 และสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดทั่วประเทศ หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมพัฒนาที่ดิน โทร 1760