พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้กรมป่าไม้ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำ ชั้น 1 และ ชั้น 2 ซึ่งมีปัญหาในเรื่องการพัฒนาสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่ ป่าไม้ เช่น ถนน ไฟฟ้า น้ำประปา แหล่งเก็บน้ำขนาดเล็ก เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า พล.ต.อ. พัชรวาท ได้ให้แนวทางในการช่วยเหลือและพัฒนาส่งเสริมการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ป่าไม้ โดยกรมป่าไม้ได้ดำเนินการมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1-13 และผู้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา อนุมัติโครงการเพื่อพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในพื้นที่ป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 โดยมีรายละเอียดดังนี้
กรณีที่ 1 มอบอำนาจตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1-13 และผู้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา ให้หน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ในพื้นที่ในเขตป่า จากเดิม ให้หน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตป่า เนื้อที่ไม้เกิน 20 ไร่ กำหนดให้หน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตป่า เพื่อพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่ออำนวยประโยชน์แก่ประชาชน ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในชุมชน เช่น การขนส่ง การสร้างถนน ปรับปรุงเส้นทาง การไฟฟ้า การประปา แหล่งเก็บน้ำขนาดเล็ก ไม่จำกัดจำนวนไร่
กรณีที่ 2 มอบอำนาจตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ตามมาตรา 19มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1-13และผู้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา อนุมัติโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น การขนส่ง การสร้างถนน ปรับปรุงเส้นทาง การไฟฟ้า การประปา แหล่งเก็บน้ำขนาดเล็ก ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยให้ส่วนราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอโครงการร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ที่ได้รับอนุมัติจากกรมป่าไม้แล้ว และมีโครงการที่จะพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ประชาชนในสิ่งอุปโภคพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในชุมชน เช่น การขนส่ง การสร้างถนน ปรับปรุงเส้นทาง การไฟฟ้า การประปา แหล่งเก็บน้ำขนาดเล็ก ฯลฯ หากกิจกรรมดังกล่าวไม่เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการได้ในกรอบพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตโดยไม่ต้องขออนุญาตกรมป่าไม้ แต่ให้แจ้งกรมป่าไม้เพื่อทราบ
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเน้นย้ำว่า การดำเนินงานครั้งนี้ กรมป่าไม้ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันผลักดันการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในเขตพื้นที่ป่าไม้อย่างเร่งด่วน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยทำให้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ป่าไม้ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม