จากกรณีที่ ผู้เสียหายซึ่งเป็นสอง ตา ยาย ขณะเก็บผักอยู่ในสวน ถูกผู้ต้องหาคลุ้มคลั่งยาเสพติด ใช้มีดพร้าฟันเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่าตนรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้เสียหายเป็นผู้สูงอายุ ต้องมาถูกผู้ต้องหาซึ่งอยู่ในขณะคลุ้มคลั่งยาเสพติดใช้มีดพร้าฟันจนเสียชีวิต จำเป็นอย่างยิ่งที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะต้องเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาตามกฎหมาย จึงได้ประสานความร่วมมือกับ นายอรุณ สุขน่วม ยุติธรรมจังหวัดสงขลา โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ประจำจังหวัดสงขลา ซึ่งมี นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุม ครั้งที่ 4/2567 ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) รายละ 110,000 บาท รวมทั้งสองราย เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 220,000 บาท
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายในคดีอาญา หรือเหยื่ออาชญากรรม ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ย่อมมีสิทธิได้รับการคุ้มครอง เยียวยาตามกฎหมาย ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายเหล่านี้ ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม และพร้อมที่จะยืนเคียงข้าง “ผู้บริสุทธิ์” และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง