กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เผยมีผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีในปี 2557 จำนวนประมาณ 60,000 ราย ที่ทำการคำนวณภาระหนี้เบื้องต้นแล้ว พบว่ายังมีภาระหนี้ค้าง กองทุนฯจึงขอเชิญผู้กู้ยืมกลุ่มนี้ให้มาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระอีก 15 ปี อีกทั้งผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากความรับผิดทันทีหลังจากทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ มิฉะนั้นกองทุนฯอาจจำเป็นต้องบังคับคดีไว้ก่อนเพื่อป้องกันการขาดอายุความ แต่จะงดการขายทอดตลาดไว้
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า “ตามที่กองทุนฯได้เปิดให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับผู้กู้ยืมนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้กู้ยืมที่กองทุนฯดำเนินคดีในช่วงปี 2557 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าลูกหนี้กลุ่มนี้ยังมีภาระหนี้ค้าง กองทุนฯจึงขอเชิญผู้กู้ยืมกลุ่มนี้ติดต่อปรับโครงสร้างหนี้ให้ได้มีโอกาสผ่อนชำระหนี้ตามสัญญาใหม่ เพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้อีก 15 ปี และผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากความรับผิดทันทีหลังจากทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ในกรณีนี้กองทุนฯอาจจำเป็นต้องบังคับคดีไว้ก่อนเพื่อป้องกันการขาดอายุความ แต่จะงดการขายทอดตลาดไว้ ขอให้ผู้กู้ยืมกลุ่มดังกล่าวไม่ต้องกังวลใจ สำหรับเงื่อนไขในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กำหนดให้ผู้กู้ยืมผ่อนชำระเงินคืนกองทุนฯเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน และต้องชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี โดยในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ เมื่อชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้นกองทุนฯจะให้ส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมสามารถเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ที่งาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2567 ณ เทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี และวันที่ 28 เมษายน 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ กรุงเทพฯ หลังจากนั้นจะมีการจัดในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป และผู้กู้ยืมสามารถเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ได้ที่สำนักงานกองทุนฯทุกวัน โดยสามารถลงทะเบียนนัดหมายเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ได้ทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th” ผู้จัดการกองทุนฯกล่าวในที่สุด