รมช.ธรรมนัส เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการกรมพัฒนาที่ดิน ปี 2562 “ฟื้นฟูปฐพี ด้วยเทคโนโลยีพัฒนาที่ดิน” พร้อมมอบนโยบายฯ

วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.00 น. ร.อ. ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการกรมพัฒนาที่ดิน ปี 2562 “ฟื้นฟูปฐพี ด้วยเทคโนโลยีพัฒนาที่ดิน” พร้อมมอบนโยบายเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานของกรมพัฒนาที่ดิน โดยมีนางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และผู้บริหารกรมพัฒนาที่ดินร่วมให้การต้อนรับ และกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมมอบช่อดอกไม้ต้อนรับในฐานะที่มากำกับดูแลกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรให้กับผู้นำเสนอผลงานวิชาการทั้งภาคบรรยายและภาคนิทรรศการ นอกจากนี้ยังเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ เยี่ยมชมและรับฟังการนำเสนอนิทรรศการผลงานวิชาการ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 -20 สิงหาคม 2562 ณ โรงแรมเดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า…. “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกระทรวงที่ต้องตอบโจทย์ให้กับเกษตรกรเป็นกระทรวงที่สำคัญ เพราะประชาชนกว่า 70% ทำอาชีพเกษตรกรรม กรมพัฒนาที่ดินจึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่ากรมชลประทาน อยากจะฝากในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต ต้องนำนโยบายฯ ไปเสนอให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบและนำไปปฏิบัติเพื่อดูแลเกษตรกรในพื้นที่ของตน สำหรับนโยบายที่จะมอบหมายให้ผู้บริหารกรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินการ ดังนี้

1) การป้องกันและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญยิ่งต่อประเทศและประชาชนชาวไทย รัฐบาลถือเป็นหน้าที่สำคัญที่จะเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์และปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพด้วยความจงรักภักดี สืบสาน รักษา ต่อยอดศาสตร์พระราชา และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักสำคัญในการทำงาน สร้างความตระหนักรู้ เผยแพร่ และปลูกฝังให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน ตลอดจนพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์

2) ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เหมาะสม และไม่ก่อให้เกิดภาวะทางการเงินการคลังของภาครัฐ มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน บูรณาการร่วมกันกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการปุ๋ยสั่งตัด เพื่อจำหน่ายให้เกษตรกรในราคาถูก ซึ่งต่ำกว่าราคาปุ๋ยที่จำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบัน เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกร โดยปุ๋ยสั่งตัด ต้องมีสูตรที่เหมาะสมกับการปลูกพืชแต่ละชนิด (เหมือนตัดเสื้อให้พอดีตัว) และแตกต่างกันตามคุณภาพของดินในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศที่แตกต่างกัน เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาล

3) ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร กรมพัฒนาที่ดินต้องให้ความรู้และส่งเสริมให้เกษตร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายโดยเร็ว ศึกษาวิจัยการใช้สารทดแทนสารเคมี ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรให้ผลิตสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง และมีโอกาสทางเศรษฐกิจ อาทิ เกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย เกษตรชีวภาพ และเกษตรแปรรูป ต่อยอดไปสู่เกษตรอุตสาหกรรม ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพมาตรฐานและมีความปลอดภัย

4) แหล่งน้ำชุมชน ให้มีระบบจัดการน้ำชุมชนที่เหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริม ฟื้นฟู อนุรักษ์ พื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่พักน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติ น้ำบาดาล และส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมบริหารจัดการน้ำในชุมชน ตามแนวพระราชดำริ มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน พัฒนาแหล่งน้ำให้เกษตรกร โดยเฉพาะแหล่งน้ำในไร่นา ซึ่งเกษตรกรมีส่วนร่วมในการสมทบค่าใช้จ่ายบ่อละ 2,500 บาท จากแหล่งน้ำนี้ เกษตรกรจะสามารถบริหารจัดการเพาะปลูกได้ด้วยตนเอง

5) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม โดยจัดพื้นที่การเกษตร ให้สอดคล้องกับระบบบริหารจัดการและคุณภาพของดินตาม Agri-Map ให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพหลักในการใช้ Agri-Map ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการเกษตร กำหนดพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจที่เหมาะสม ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้ตลาดนำการผลิต

ทั้งนี้จะทำให้เชื่อมั่นว่า กรมพัฒนาที่ดินจะเป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีความสำคัญยิ่งในการกำหนดเขตความเหมาะสมของพืชเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นต้นทางของการกำหนดปริมาณการผลิตตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ตลาดนำการเกษตร” ดังนั้น งานวิจัยเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาการเกษตร การที่กรมพัฒนาที่ดินจัดประชุมวิชาการทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้นักวิชาการได้มีเวทีนำเสนอผลงานวิชาการใหม่ ๆ เป็นเรื่องที่ดีมาก ขอให้การประชุมวิชาการประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ และสามารถนำไปใช้ในการช่วยเหลือให้เกษตรกรทำการเกษตรได้ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี”