พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงพื้นที่อื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมามีการเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งการดำเนินการตามนโยบายนี้ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน เนื่องจากปัญหาที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ จึงได้ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ในด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงการสร้างมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินในช่วงปีงบประมาณ 2558-2565 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดหาที่ดินทำกินให้ชุมชนได้จำนวน 1,582 พื้นที่ 71 จังหวัด รวมเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 5,888,729 ไร่ โดยได้เห็นชอบให้นำพื้นที่ดังกล่าวไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนแล้ว จำนวน 1,372 พื้นที่ 69 จังหวัด เนื้อที่รวมกว่า 4,309,271 ไร่
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งมีพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ผู้บริหาร ทส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมได้สรุปให้มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัด โดยแบ่งเป็น ปีงบประมาณ 2566 (เพิ่มเติม) จำนวน 4 พื้นที่ 4 จังหวัด รวมเนื้อที่กว่า 1,509 ไร่ และในส่วนของปีงบประมาณ 2567 จำนวน 27 พื้นที่ 10 จังหวัด รวมเนื้อที่กว่า 35,460 ไร่ อีกทั้งยังเห็นชอบให้นำพื้นที่ไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 85 พื้นที่ 22 จังหวัด รวมเนื้อที่กว่า 692,707 ไร่ นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติ ให้ คทช จังหวัด เร่งรัดพื้นที่เป้าหมายที่จัดที่ทำกินให้พี่น้องประชาชน ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณ 2567 อีกกว่าเกือบ 700,000ไร่
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดหาที่ดินทำกินให้ชุมชน จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ที่คุ้มค่า ช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิต ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนและชุมชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว