วันที่ 4 เมษายน 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ร่วมปฏิบัติการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและขายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี – นนทบุรี ตรวจยึดของกลาง มูลค่าความเสียหายกว่า 5,000,000 บาท
สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้ระดมกวาดล้างร้านขายยาเถื่อน และร้านขายยาที่ใช้บุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกรขายยาแก้ไอ แก้แพ้ ให้กลุ่มวัยรุ่นเพื่อเป็นส่วนผสมยาเสพติดชนิด 4×100 จำนวนกว่า 40 จุด ทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจากการตรวจค้น พบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแก้ไอปลอม จึงทำการเฝ้าระวังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยากลุ่มดังกล่าวเรื่อยมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวพบว่า มีการลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม และทราบถึงกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตยาแก้ไอปลอมว่ามีการจัดเก็บส่วนผสม ฉลาก บรรจุภัณฑ์ รวมถึงผลิต อยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และ จ.นนทบุรี
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายค้นเข้าตรวจค้นสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการขายยาแก้ไอปลอม จำนวน 4 จุด ดังนี้
1. บริษัทผู้ผลิตในพื้นที่ ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ตรวจยึดฝาและขวดบรรจุภัณฑ์สีชา จำนวน 2 ขวด, ไซรัปกลิ่นราสเบอรี่ จำนวน 18 ขวด, ใบเสร็จรับเงิน, ใบส่งสินค้า (ในนามคุณไอลดา) จำนวน 103 แผ่น, ขวดสีชา จำนวน 1,200 ขวด อายัด 100,000 ขวด
2. สถานที่จัดเก็บบรรจุภัณฑ์ และวัตถุดิบในการผลิตยาน้ำเชื่อมแก้ไอ ในพื้นที่ ต.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ตรวจยึดขวดพลาสติกสีชา จำนวน 13,160 ขวด, ไซรัปกลิ่นแอปริคอต ขนาด 5 ลิตร จำนวน 11 แกลลอน, ไซรัปกลิ่นราสเบอรี่ ขนาด 5 ลิตร จำนวน 9 แกลลอน, โซเดียมไซคลาเมท (สารให้ความหวาน) ขนาด 25 กก. จำนวน 4 กระสอบ, กรดซิตริกโมโนไฮเดรท ขนาด 25 กก. จำนวน 1 กระสอบ
3. สถานที่ผลิตยาแก้ไอปลอมในพื้นที่ ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ตรวจยึดวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยาแก้ไอปลอม ได้แก่ โซเดียมไซคลาเมท (สารให้ความหวาน) ขนาด 25 กก. จำนวน 1 กระสอบ, กรดซิตริกโมโนไฮเดรท จำนวน 20 กก. รวมทั้งถังสำหรับบรรจุยาน้ำแก้ไอที่ผลิตแล้ว ขนาด 200 ลิตร จำนวน 8 ถัง
4. สถานที่แบ่งบรรจุยาแก้ไอปลอม ในพื้นที่ ต. บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตรวจยึดและอายัดเครื่องบรรจุยาน้ำ จำนวน 5 เครื่อง, เครื่องตอกฝา จำนวน 5 เครื่อง, เครื่องติดฉลาก จำนวน 5 เครื่อง, ถังสำหรับบรรจุยาน้ำแก้ไอที่ผลิตแล้ว ขนาด 200 ลิตร จำนวน 3 ถัง, ถังสแตนเลส ขนาด 1,250 ลิตร สำหรับบรรจุยาน้ำแก้ไอที่ผลิตแล้ว จำนวน 3 ถัง, ยาแก้ไอ ยี่ห้อ Datissin จำนวน 6,000 ขวด รวมทั้งฉลากยา และบรรจุภัณฑ์ในการผลิตจำนวนหนึ่ง
จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดนำส่วนผสม วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์จากสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี มาแบ่งบรรจุในโกดังในพื้นที่ ต. บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยจะเปลี่ยนสถานที่ในการผลิตไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ยากแก่การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510
1. ฐาน “ผลิตยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน10,000 บาท
2. ฐาน “ผลิต และขายยาปลอม” ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 50,000 บาท
ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) กล่าวว่าปฏิบัติการครั้งนี้ อย. ต้องขอขอบพระคุณตำรวจสอบสวนกลาง บก.ปคบ. ที่ช่วยสืบสวนจนสามารถจับกุมเครือข่ายลักลอบผลิตยาน้ำแก้ไอปลอมได้ในวันนี้ ซึ่งที่ผ่านมา อย. ได้มีมาตรการในการตรวจสอบ เฝ้าระวังการผลิตและขายกลุ่มยาน้ำแก้ไอซึ่งเป็นยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงที่มีการนำไปใช้ในกลุ่มวัยรุ่น โดยมีการตรวจสอบและจับกุมทั้งผู้ผลิตและผู้ขายยากลุ่มดังกล่าวที่ผิดกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบการกระทำผิดในร้านขายยา นอกจากดำเนินคดีอาญาแล้ว ยังมีการพักใช้ใบอนุญาตอีกด้วย
สำหรับการจับกุม ณ สถานที่ผลิตยาแก้ไอปลอมในวันนี้ จะเห็นได้ว่ายาปลอมเหล่านี้เกิดจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีความปลอดภัย จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนในการเลือกซื้อยา อย่าเสี่ยงสั่งซื้อยาจากสื่อออนไลน์หรือซื้อจากร้านทั่วไปที่ไม่ได้รับอนุญาตขายยา ซึ่งนอกจากจะได้รับยาที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่สามารถใช้รักษาโรคได้แล้ว ยังไม่ปลอดภัย หรือเกิดอันตรายจากการบริโภคยาดังกล่าวได้ ขอให้เลือกซื้อยาจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะมีกระบวนการคัดเลือกยาที่มีคุณภาพ มาตรฐาน นำมาขายในร้านยา รวมถึงเภสัชกรจะเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำในการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลให้กับผู้ป่วย
ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่ www.fda.moph.go.th และ Line: @FDAThai และหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Email: 1556@fda.moph.go.th Line: @FDAThai, Facebook: FDAThai หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ยาเป็นปัจจัย 4 ที่ประชาชนจะใช้รักษาเยียวยาเมื่อป่วยไข้อันดับแรก และส่งผลโดยตรงกับสุขภาพของประชาชน หากรับประทานยาปลอมที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้การรักษาไม่ได้ผล ไม่หาย และอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต ผู้ผลิตและขายยาจะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง เพื่อเป็นหลักประกันเบื้องต้นว่ายาที่ผลิตมาสู่ท้องตลาดมีมาตรฐาน และรักษาโรคได้จริง บก.ปคบ.จะดำเนินกวดขันจับกุมผู้ผลิตและขายยาปลอม รวมถึงกวาดล้างผู้ที่ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ถึงที่สุด โดยประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค
“ผู้ต้องหาหรือจําเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคําพิพากษาถึงที่สุด”