ซีพีเอฟ รับ 2 รางวัลดีเด่นด้านการคุ้มครองสิทธิและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ในวันสตรีสากล

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้รับ 2 รางวัลดีเด่นด้านการคุ้มครองสิทธิและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ เนื่องในวันสตรีสากลประจำปี 2567 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยซีพีเอฟ ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทองค์กรเอกชน และ นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ และประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ผู้อำนวยการ สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทบุคคลภาคเอกชน ตอกย้ำความสำเร็จจากความมุ่งมั่นในการดำเนินงาน
บนพื้นฐานของการเคารพสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรในการยอมรับความแตกต่าง การปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม ต่อต้านการคุกคามทุกรูปแบบตลอดวงจรชีวิตของพนักงาน

นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ กล่าวว่า รางวัลที่ได้รับสะท้อนให้เห็นว่า ซีพีเอฟเป็นองค์กรที่ตระหนักถึงความแตกต่างหลากหลายไม่เพียงแค่เรื่องเพศเท่านั้น แต่ยังให้การสนับสนุน ส่งเสริมการมอบโอกาส การให้สิทธิความเสมอภาคแก่คนทุกวัย ทุกเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา และครอบคลุมถึงกลุ่มเปราะบาง เป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมาย จึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการเคารพสิทธิมนุษยชน โดยกำหนดนโยบายและนำไปปฏิบัติจริงในทุกกระบวนการ ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พัฒนาศักยภาพ สร้างสรรค์พลังบวก และส่งต่อคุณค่าที่ดีแก่สังคมและองค์กรได้อย่างยั่งยืน

ด้วย ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ ก่อให้เกิดความแตกต่างหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งซีพีเอฟมีความเชื่อที่ว่าความหลากหลายนี้เอง จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจุดแข็งของการบริหารงานทรัพยากรบุคคลตลอด Employee Journey ตั้งแต่ การสรรหาว่าจ้าง การอบรมพนักงาน การประเมินผลการปฏิบัติงาน การจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการ ไปจนถึงการดูแลพนักงานหลังเกษียณ อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะหล่อหลอมให้เกิดเป็นวัฒนธรรมแห่งการยอมรับความแตกต่างหลากหลายอย่างเท่าเทียม สร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กร (Diversity, Equity, and Inclusion: DEI) ด้วยโครงการต่างๆ อาทิ การริเริ่มกิจกรรมที่พนักงานเข้าถึงได้โดยง่ายผ่านชมรมที่หลากหลายกว่า 19 ชมรม ตามความสนใจของพนักงาน เช่น ชมรม LGBTQ+ ชมรมครอบครัวอบอุ่น ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่เปิดรับฟังเสียงของพนักงานช่วยให้พนักงานได้ตระหนักและมีส่วนร่วมขับเคลื่อนส่งเสริมความเสมอภาคในองค์กร ทั้งยังมุ่งส่งเสริมผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส ด้วยการเปิดโอกาสให้คนพิการได้ใช้ความสามารถในการสร้างรายได้ลดภาระของครอบครัวและสังคม ส่งผลให้ ซีพีเอฟ ได้รับรางวัลองค์กรสนับสนุนคนพิการดีเด่น จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) 7 ปีต่อเนื่อง และรางวัลองค์กรต้นแบบความยั่งยืนในตลาดทุนไทย ด้านสนับสนุนคนพิการ ระดับดีเด่น จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ซีพีเอฟ ยังจัดจ้างแรงงานต่างด้าวให้เป็นพนักงานของบริษัทโดยตรงผ่านตัวแทนจัดหาแรงงานที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการสมัคร สรรหา คัดเลือก รวมถึงค่าใช้จ่ายในกระบวนการจ้างแรงงานต่างด้าวมีความถูกต้อง โปร่งใส ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกับพนักงานคนไทยทุกประการ อีกทั้งยังมีการตรวจสอบกระบวนการจ้างงานอย่างมีจริยธรรม (Post-Arrival Verification) มั่นใจได้ว่า ซีพีเอฟ
มีการดำเนินกระบวนการด้วยความรับผิดชอบ ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ มีความโปร่งใส ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถดำเนินการแก้ไข (Corrective Actions) ในความไม่สอดคล้องอย่างทันท่วงทีหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น

นอกเหนือจากการดูแลพนักงานภายในองค์กรแล้ว ซีพีเอฟ ยังตระหนักและให้ความสำคัญกับการดำเนินงานเพื่อสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติและสังคม ด้วยความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนโครงการต่างๆ อาทิ โครงการยกระดับและลดความเหลื่อมล้ำของการศึกษาไทยโดยร่วมกับมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา หรือ CONNEXT ED เพื่อส่งเสริมศักยภาพเยาวชนให้เข้าถึงการศึกษา เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสู่มาตรฐานสากล โครงการ “สร้างคน สร้างอนาคต สร้างเครือข่าย” โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาชั้นนำออกแบบและพัฒนาหลักสูตรการศึกษา ผลักดันให้นักศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ทำงานจริง นำไปต่อยอดสู่การทำงานในอนาคตตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน

นอกจากรางวัลดีเด่นในประเภทองค์กรแล้ว กระทรวง พม.ยังพิจารณามอบรางวัลบุคคลภาคเอกชนดีเด่นด้านการคุ้มครองสิทธิและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ให้แก่นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ในฐานะเป็นผู้บริหารหญิงที่มีบทบาทและผลการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเสมอภาคและการคุ้มครองสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียเป็นที่ประจักษ์และยอมรับของสังคม อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีของบุคลากรทั้งภายในและภายนอกองค์กรอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักของการจัดงาน “วันสตรีสากล ประจำปี 2567” ที่ว่า “เสริมพลังสตรีและเด็กหญิง ขจัดความยากจน สู่ความเท่าเทียมระหว่างเพศ บนพื้นฐานครอบครัวที่อบอุ่น”