วันที่ 12 สิงหาคม 2562 – ที่ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับลูกเรือประมงไทย จำนวน 18 คน ที่เดินทางกลับจากประเทศโซมาเลีย ในโอกาสเข้าพบเพื่อแสดงความขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้โดยสวัสดิภาพ พร้อมเน้นย้ำแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการคุ้มครองและไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และต้องแจ้งการเดินทางกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พร้อมสมัครสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เพื่อสิทธิประโยชน์ของแรงงานหากประสบปัญหาในต่างประเทศ
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังให้การต้อนรับแรงงานไทยว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ของแรงงานลูกเรือประมงไทยที่ถูกลอยแพที่ประเทศโซมาเลีย โดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแล ซึ่งในวันนี้ เป็นการเดินทางกลับของลูกเรือประมง จำนวน 18 คน ที่เดินทางกลับมาเมื่อ 06.30 น. ที่ผ่านมา ซึ่งแรงงานกลุ่มนี้ประสบปัญหาถูกนายจ้างลอยแพบนเรือประมง กลางทะเลชายฝั่งโบซาโซ่ ประเทศโซมาเลีย ไม่ได้รับค่าจ้าง และขาดอาหาร จนต้องติดต่อขอความช่วยเหลือด่วน ซึ่งจากการตรวจสอบปรากฎว่า มีจำนวน 42 คน ไปทำงานกับนายจ้างประเทศอิหร่าน เป็นเรือ 2 ลำ ชื่อ วาดานิ 1 มีแรงงานไทยจำนวน 22 คน และเรือวาดานี 2 มีแรงงานไทยจำนวน 20 คน โดยเรือวาดานิ 1 เดินทางกลับมาก่อน 4 คน เดินทางไปโดยไม่ได้แจ้งกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และพบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศของกรมการจัดหางาน จำนวน 13 คน โดยแรงงานที่กลับในวันนี้ 18 คน ป็นสมาชิกกองทุนฯ จำนวน 5 คน โดยแรงงานที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ จะได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เป็นค่าพาหนะ (ในต่างประเทศ) ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท นอกจากนี้ กรมการจัดหางานร่วมกับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พม.) ยังได้อำนวยความสะดวกโดยจัดรถรับ-ส่ง พร้อมจัดหาที่พักให้แก่แรงงานก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ 7 คน บุรีรัมย์ 6 คน เพชรบูรณ์ 2 คน สมุทรสาคร 1 คน มหาสารคาม 1 คน และชัยภูมิ 1 คน และจากนี้จะได้สอบข้อเท็จจริงจากแรงงานไทย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พม.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานต่อไป
รมว.แรงงาน เน้นย้ำให้ผู้ประสงค์จะไปทำงานในต่างประเทศเดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และต้องแจ้งการเดินทางกับกรมการจัดหางาน พร้อมสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ โดยมีอัตราค่าสมัครสมาชิก 300-500 บาท แตกต่างกันตามประเทศที่จะเดินทางไปทำงาน ทั้งนี้เพื่อจะได้รับการคุ้มครอง ดังเช่น กรณีของลูกเรือประมงไทยที่ประสบปัญหาถูกทอดทิ้งอยู่ในต่างประเทศ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนายจ้าง ซึ่งแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุน ก็จะได้รับความช่วยเหลือตามสิทธิ ส่วนแรงงานไทยที่ลักลอบไปทำงาน นอกจากจะต้องอยู่อย่างลำบากและต้องหลบซ่อนแล้วยังถูกเอารัดเอาเปรียบอีกด้วย