“อนุทิน” สั่งลุยโครงการน้ำดื่มราคาประหยัดให้ประชาชน กปภ. ผุด 3 โครงการรับลูกทันที

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) พร้อมด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ร่วมงานวันสถาปนาการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ครบรอบ 45 ปี สั่งการบอร์ด กปภ. ลุยงาน ย้ำเร่งทำนโยบายโครงการน้ำดื่มราคาประหยัดฯ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงน้ำสะอาด ลดค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ด้าน กปภ. รับลูกเตรียมพร้อม 3 โครงการ เริ่มดำเนินการทันที

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เปิดเผยในโอกาสร่วมงานวันสถาปนา กปภ. ครบรอบ  45 ปี วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า กปภ. เป็นองค์กรที่สั่งสมประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการน้ำประปาในส่วนภูมิภาค โดยบุคลากร กปภ. ทุกคนมีความรู้ความสามารถในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ กปภ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส เป็นประธานคณะกรรมการ กำกับดูแลการดำเนินงานของ กปภ. ให้บรรลุเป้าหมายในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ตามนโยบายมหาดไทย ทั้งด้านการขยายพื้นที่ให้บริการน้ำอุปโภคบริโภค การลดน้ำสูญเสีย และการดำเนินการโครงการน้ำดื่มราคาประหยัดให้ประชาชน เพื่อให้คุณภาพชีวิตของประชาชนได้รับการยกระดับ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงน้ำสะอาด ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย และลดค่าใช้จ่ายในการครองชีพ

นายจักรพงศ์ คำจันทร์ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 2) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่าในปี 2567 กปภ. ได้เร่งดำเนินโครงการน้ำดื่มราคาประหยัดให้ประชาชน ได้แก่ 1.) โครงการน้ำประปาดื่มได้ ระยะที่ 1 ประกาศแล้ว จำนวน 31 พื้นที่ 113 แท่นน้ำประปา และจะทยอยประกาศเพิ่มเติม 2.) โครงการ Mini Station บริการน้ำดื่มสะอาด จะนำร่อง 10 จุดบริการ และ 3.) โครงการตู้กดน้ำดื่มสะอาดราคาประหยัด จะมอบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งเป้าหมายติดตั้ง 1,000 ตู้ ภายใน 3 ปี โดยในปีนี้จะเริ่มติดตั้ง จำนวน 300 ตู้ ราคาจำหน่ายกำหนดไว้ที่ 0.50-1.00 บาท/ลิตร  นอกจากนี้ กปภ. อยู่ระหว่างศึกษาการแก้ไขพระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2522 เพื่อให้รองรับกับการดำเนินงานของ กปภ. ในปัจจุบัน หากแก้ไขกฎหมายแล้วเสร็จจะทำให้ กปภ. สามารถดำเนินงานได้อย่างคล่องตัว รวมทั้งยังสามารถส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชนผ่านน้ำประปาที่สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ตลอดจนการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำประปาในด้านอื่น ๆ เพื่อให้บริการประชาชนในอนาคตต่อไป