‘หมอชลน่าน’ ลงพื้นที่ติดตาม 30 บาทรักษาทุกที่ จ.แพร่ ประชาชนพึงพอใจสูงสุด ลดแออัด ลดค่าใช้จ่าย สะดวก รวดเร็ว ครองแชมป์อันดับหนึ่งใช้ Telemedicine ผ่าน แอพหมอพร้อม ในรพ.ห่างไกล

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง แถลงข่าวพร้อมกับ นพ.วิชิน โชติปฎิเวชกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่ และ นพ.อมรพันธุ์ สมร ผู้อำนวยโรงพยาบาลวังชิ้น ที่โรงพยาบาลแพร่ ภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข พร้อมดัวยคณะที่ปรึกษา ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขทั้งในส่วนกลางและเขตสุขภาพที่ 1 ลงพื้นที่ติดตามนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่จังหวัดแพร่

ซึ่งเป็น 1 ใน 4 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการในเฟสแรก ภายหลังเปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2567 ตามนโยบายของรัฐบาล ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานตามนโยบายถือว่าน่าพอใจในระดับดีมาก โดยเฉพาะการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างหน่วยบริการทั้งหมดในจังหวัดแพร่ ซึ่งประกอบด้วย รพ.ชุมชน 8 แห่ง และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 119 แห่ง สามารถเชื่อมข้อมูลได้ทั้งหมด 100 % ทั้งจังหวัด นอกจากนี้ ในส่วนของการดำเนินการให้ประชาชนลงทะเบียนประวัติสุขภาพหรือ Health ID พบว่าได้เกินกว่า 50 % ส่วนการลงทะเบียนผู้ให้บริการ Provider ID อยู่ที่ 66 % ถือว่าอยู่ในระดับดี เช่นเดียวกัน

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในส่วนของประชาชน พบว่าในภาพรวมมีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้น 1.94% โดยส่วนใหญ่ขอบคุณรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ที่สามารถผลักดันนโยบายให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นในการเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการเดินทางลดลงอย่างมาก เพราะสามารถใช้บริการจากคลินิก แล็บ และร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการได้

“จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยบริการเอกชน 3 แห่ง ทั้งคลินิกทันตกรรม ร้านขายยา และ ห้องแล็บของภาคเอกชน พบว่า มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลการสำรวจความพึงพอใจ พบว่าประชาชนให้การตอบรับดีมาก เนื่องจากสะดวก ไม่ต้องหยุดงาน และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม” นางสาวตรีชฎา กล่าว

นายแพทย์วิชิน โชติปฎิเวชกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่ กล่าวว่า ในส่วนของรพ.แพร่ได้ให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของการให้บริการผ่าน เทเลเมดิซีน ผ่านแอพพิเคชั่น หมอพร้อม จังหวัดแพร่สามารถให้บริการได้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ โดยให้บริการมากกว่า 3,000 ครั้ง ขณะที่การนัดหมายแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ จังหวัดแพร่ได้เป็นอันดับสอง มีการนัดหมายมากกว่า 1,000 ครั้ง ส่วนการรับบริการข้ามเขต ไม่เพิ่มขึ้นมาก มีเพียง 0.55 % เท่านั้น รวมถึงการจัดบริการส่งยาถึงบ้านด้วย Health Rider ให้บริการได้ครบ 8 อำเภอ ส่งยาให้แก่ประชาชนไปแล้ว 408 ราย

ผอ.รพ.แพร่ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของหน่วยบริการเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ร้านขายยา แล็บ คลินิกเอกชน คลินิกทันตกรรม ได้จัดให้มีระบบสารสนเทศเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการจ่ายชดเชยระหว่างโรงพยาบาลกับหน่วยบริการ โดยมีการเบิกจ่ายเงินให้กับหน่วยบริการต่าง ๆ ไปแล้วเกือบ 4 ล้านบาท ขณะนี้กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวระบบการส่งต่อโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เพื่อให้เป็นบริการที่ไร้รอยต่ออย่างแท้จริง ซึ่งจะมีการเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2567 นี้

ด้าน นพ.อมรพันธุ์ สมร ผอ.รพ.วังชิ้น พูดถึงในพื้นที่อำเภอวังชิ้นซึ่งป็นพื้นที่ห่างไกลในเมืองมาก การเดินทางเข้าไปรับยาหรือเข้ามารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลค่อนข้างลำบาก การพบหมอทางเทเลเมดิซีน หรือการพบหมอทางไกลมาช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ง่ายขึ้น รวมถึงการส่งยาทางไปรษณีย์และ Health Rider โดยมีอสม.ในพื้นที่เป็นผู้ส่งยาและทำหน้าที่ในการอธิบายวิธีการใช้ยา ทำให้ลดขั้นตอนในการเข้ามาที่โรงพยาบาลสำหรับ 16 โรคทั่วไป

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า นพ.ชลน่านพอใจมากที่ได้รับรายงานข้อมูลจากโรงพยาบาลในจังหวัดแพร่ในการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชาชนใบเดียว หลังจาก kick off โครงการดังกล่าว ทำให้เห็นความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขในการดูสุขภาพของพี่น้องประชาชนคนไทยที่เท่าเทียมกัน และในเดือนมีนาคมจะเปิดเฟส 2 ที่จ.เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา จะสามารถขยายทั้งประเทศได้ในสิ้นปี 2567 นี้แน่นอน