นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด NBM ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี, นายสุมิตร ศรีสันติธรรม ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ, นางสาวนริศรา ศรีสันต์ ที่ปรึกษากลยุทธ์สื่อสารองค์กร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC และ ดร.ชัยศักดิ์ ศรีเศรษฐนิล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส อินฟราสตรัคเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ร่วมให้การต้อนรับ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง), นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และนายทยากร จันทรางศุ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง กรมการขนส่งทางราง ในการลงพื้นที่ตรวจความพร้อม และทดสอบระบบการเดินรถโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู จากสถานีกรมชลประทาน (PK05) ถึง สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) พร้อมรับฟังรายงานผลการดำเนินงานซ่อมรางนำไฟฟ้า (Conductor Rail) หรือรางจ่ายไฟที่ชำรุด จากอุบัติเหตุจากการคืนพื้นผิวจราจรบริเวณหน้าตลาดกรมชลประทาน ถนนติวานนท์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงาน รวมถึงผู้รับสัมปทาน ที่ได้ดำเนินการซ่อมแซมรางนำไฟฟ้า จนแล้วเสร็จ 100% ตามแผนงานที่กำหนดไว้ จึงได้ร่วมกันทดลองเดินรถจากสถานีกรมชลประทาน (PK05) ถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เพื่อทดสอบความพร้อมของระบบ และสร้างความมั่นใจในการใช้บริการให้แก่ประชาชน ก่อนเปิดให้บริการเดินรถอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป ซึ่งจากการทดลองเดินรถทั้ง 5 สถานี พบว่าระบบการเดินรถมีความราบรื่นเรียบร้อยดี พร้อมเน้นย้ำทุกหน่วยงาน ร่วมกันทำงานโดยยึดหลักความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ
ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการ ที่ให้ความร่วมมือในการช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี เพื่อคืนความสะดวกให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้บริการรถไฟสายสีชมพูได้ตามปกติเหมือนเดิมครบถ้วน และคาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นเพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับประชาชนต่อไป
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ ได้ดำเนินการรื้อถอนรางจ่ายกระแสไฟฟ้าและฉนวน ในส่วนที่ได้รับความเสียหาย และนำของใหม่เข้ามาดำเนินการติดตั้ง โดยมีที่ปรึกษาของ รฟม. และ ICE เข้ามาติดตาม และตรวจสอบความเรียบร้อยร่วมกันกับ NBM ในทุกขั้นตอน อีกทั้ง บริษัทฯ ยึดมั่นในหลักการความปลอดภัยของผู้ใช้บริการประชาชนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด จึงกำหนดมาตรฐานการตรวจความเรียบร้อยของระบบและรางก่อนให้บริการผู้โดยสารในทุกวัน ดังนั้นขอให้มั่นใจว่าเมื่อเปิดให้บริการเดินรถได้ต่อเนื่องทั้ง 30 สถานีแล้วจะทำให้การเดินทางของประชาชนตลอดเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อเปิดให้บริการเดินขบวนรถไฟฟ้าได้เต็มรูปแบบครบทั้ง 30 สถานี ตั้งแต่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึง สถานีมีนบุรี (PK30) จะเก็บค่าโดยสารตามอัตราปกติ เริ่มต้น 15 บาท สูงสุดไม่เกิน 45 บาท ซึ่งผู้โดยสารสามารถเดินทางได้ด้วยบัตร 3 ประเภท คือ บัตรโดยสารเที่ยวเดียว, บัตรแรบบิท และบัตร EMV ที่ใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้า
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู MRT Pink Line Call Center โทรศัพท์ 0 2 – 617- 6111 Line Official : @pinkyellowline เว็บไซต์ www.nbm.co.th หรือ Facebook Page : MRTPinkLine หรือเช็กสถานะการเดินรถได้ที่ Application ‘The SKYTRAINs’