พช.เมืองสิงห์บุรี “ชวนหิ้วปิ่นโต เอามื้อสามัคคี” สืบสานวิถีชาวโคก หนอง นา พัฒนาชุมชนชนอำเภอเมืองสิงห์บุรี มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ สู่ความยั่งยืน ครั้งที่ 2

วันที่ 19 มกราคม 2557 เวลา 08.00 น. จ.อ.วันชัย อุทาวงค์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองสิงห์บุรี มอบหมายให้นางสาวสาวิตรี อุดมพันธ์ พัฒนาการอำเภอเมืองสิงห์บุรี ดำเนินกิจกรรม “ชวนหิ้วปิ่นโต เอามื้อสามัคคี” สืบสานวิถีชาวโคก หนอง นา พัฒนาชุมชนเมืองสิงห์บุรี สู่ความยั่งยืน” โดยมี นางสาวผ่องพรรณ บรรณทอง ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน นางสาวปราณี อินทโชติ ท้องถิ่นอำเภอเมืองสิงห์บุรี นายยรรยง นาคมา สาธารณสุขอำเภอเมืองสิงห์บุรี นายสุทธิพงษ์ ภาคทรวง ผู้อำนวยการโรงเรียนหัวไผ่วิทยาคม นายนพดล สิงห์พลับ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวไผ่ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหัวไผ่ นายสมยศ ปิยะชน กำนันตำบลหัวไผ่ ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ตำบลหัวไผ่ เครือข่ายโคก หนอง นา อำเภอเมืองสิงห์บุรี เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดสิงห์บุรี เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอเมืองสิงห์บุรี และผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อ.ช.) ร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์เรียนรู้ทฤษฏีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา ” แปลงนายเสถียร หริ่มสืบ บ้านโพธิ์ชัย หมู่ที่ 9 ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

นางสาวผ่องพรรณ บรรณทอง ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยการเชื่อมโยงเครือข่ายในพื้นที่ด้วยการบูรณาการการทำงาน แบบมีส่วนร่วมในรูปแบบการช่วยเหลือกันและกัน ผ่านการเอามื้อสามัคคี ในวันนี้เป็นการน้อมนำในแนวทางตามหลักทฤษฎีใหม่ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงพระราชทานเพื่อคนไทยและความมั่นคงของประเทศอย่างยั่งยืน และ ยังเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารของกรมการพัฒนาชุมชนอีกด้วย ต้องขอขอบคุณเครือข่ายโคก หนอง นา อำเภอเมืองสิงห์บุรีทุกท่าน ที่ช่วยกันขับเคลื่อนกิจกรรมเอามื้อสามัคคีฯ อย่างต่อเนื่อง และเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม”

นายเสถียร หริ่มสืบ เจ้าของแปลง กล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องขอบคุณและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงพระราชทานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการทำโคก หนอง นา นี้ แรกๆเลยครอบครัวไม่เห็นด้วย เพราะเสียดายพื้นที่ทำนา แต่ตนเองก็ยืนยันที่จะทำ เพราะมีความเชื่อว่าเศรษฐกิจพอเพียงสามารถทำได้จริง และตอบโจทย์ชีวิตสังคมที่วุ่นวายในปัจจุบัน สามารถเป็นสถานที่ๆทำให้เรามีความสุขได้อย่างแท้จริง และเป็นรูปธรรม ทุกวันนี้รู้สึกภูมิใจมากที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา” ของกรมการพัฒนาชุมชน ไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ยอมเสียสละพื้นที่นาแปลงนี้เป็น โคก หนอง นา และยืนยันว่าจะไม่ทิ้งร้างพื้นที่แห่งนี้แน่นอน แต่จะค่อยๆพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นศูนย์เรียนรู้ฯ ต้นแบบ ที่ประชาชน โรงเรียน หรือหน่วยงานอื่นๆ สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์จากที่แห่งนี้ได้”

สำหรับกิจกรรมเอามื้อสามัคคีในวันนี้ ประกอบด้วยการแบ่งฐานการเรียนรู้การทำแซนวิชปลา การปลูกถั่วฝักยาว การห่มฟางต้นไม้ และการปล่อยปลาตะเพียน จากนั้นได้ถอดบทเรียนความสำเร็จการทำ โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกท่าน ทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมกิจกรรมเอามื้อสามัคคีในวันนี้ รวมถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงทางอาหาร นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรม “ชวนหิ้วปิ่นโต เอามื้อสามัคคี” สืบสานวิถีชาวโคก หนอง นา พัฒนาชุมชนชนอำเภอเมืองสิงห์บุรีอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม