ตามที่มีข่าว มีผู้เสียหายถูกบุคคลที่มีชื่อสกุลเดียวกันสวมสิทธิ นำที่ดินขายทอดตลาด นางเพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี โฆษกกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากคดีอาญาของศาลแขวงปทุมวัน คดีหมายเลขแดงที่ 142/2557 ศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ผู้เสียหายในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าว ได้สืบหาทรัพย์สินของจำเลยและพบที่ดินซึ่งปรากฏชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จึงได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินดังกล่าวเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ตรวจสอบเอกสารที่รับรองจากนายทะเบียนตามที่เจ้าหนี้นำส่ง ประกอบกับเจ้าหนี้ได้ยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวจริง จึงได้ยึดไว้และนำออกขายทอดตลาดนำเงินที่ได้จากการขายชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา นอกจากนี้ในการแจ้งการยึดจำเลยในคดีอาญาได้รับทราบการแจ้งการยึดจากเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมทราบว่าที่ดินที่ถูกยึดไม่ใช่ที่ดินของจำเลยในคดีอาญาแต่ไม่ได้คัดค้านหรือแจ้งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าที่ดินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้นั้นไม่ใช่ของตนแต่อย่างไร และเมื่อขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวได้แล้วยังมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า ต้นฉบับโฉนดที่ดินสูญหายและได้แจ้งความเอกสารสูญหาย พร้อมนำส่งหลักฐานการแจ้งความเอกสารหายแทนการส่งต้นฉบับโฉนดที่ดินเพื่อขอรับเงินที่เหลือจากการขายทอดตลาดไปจากเจ้าพนักงานบังคับคดี ปัจจุบันอยู่ระหว่างผู้เสียหายตามข่าวใช้สิทธิตามกฎหมาย ทั้งนี้กรมบังคับคดีได้ติดตามให้จำเลยในคดีอาญาร่วมรับผิดชอบในกรณีดังกล่าวด้วย
สามารถสอบถามข้อมูล หรือขอรับคำปรึกษา เกี่ยวกับ กฎหมาย ขั้นตอนในการบังคับคดีแพ่ง บังคับคดีล้มละลาย การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และการวางทรัพย์ ได้ที่ สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ หรือโทร 0 2881 4999 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th