วว. เพิ่มโอกาสการแข่งขันผู้ประกอบการไทยด้วย วทน. ในงาน OTOP City 2023

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เพิ่มโอกาสการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการโอทอปด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในงาน OTOP City 2023 ซึ่ง กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 24 ธันวาคม 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “ช้อปสนุก…ส่งสุขท้ายปี สินค้าดีจากภูมิปัญญาไทย” โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ในการนี้ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. ร่วมเป็นเกียรติด้วย ในวันที่ 18 ธันวาคม 2565 โอกาสนี้ ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. พร้อมด้วย นางปริยะดา วิสุทธิแพทย์ ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วว. นางสาวปัทมา ลิ่วเลิศมงคล ผอ.กองประชาสัมพันธ์ และบุคลากร วว. ร่วมเป็นเกียรติและให้การต้อนรับในโอกาสที่รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เยี่ยมชมนิทรรศการและร้านค้าผู้ประกอบการโอทอป ซึ่ง วว. นำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปช่วยพัฒนาศักยภาพและเสริมแกร่งผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มโอกาสด้านการแข่งขันอย่างเป็นรูปธรรม ( 18 ธ.ค. 2566 ณ อิมแพค เมืองทองธานี)

กิจกรรมภายในงาน OTOP City 2023 มีการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน เทศกาลของขวัญปีใหม่มากกว่า 2,000 ร้านค้า โอทอปชวนชิมมากกว่า 160 ร้านค้าทั่วประเทศ และผลิตภัณฑ์ชุมชนจากทุกภูมิภาคทั่วไทย โดย กรมการพัฒนาชุมชน คาดหวังว่า OTOP City 2023 จะสามารถขยายตลาด สร้างการรับรู้ให้กับงานศิลปหัตถกรรมจากภูมิปัญญาของคนไทยให้แพร่หลายและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ไม่น้อยกว่า 2,000 ครัวเรือน สร้างรายได้ให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท

“…สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ วว. นำมาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายในงาน OTOP City 2023 เป็นหนึ่งในผลงานที่เป็นรูปธรรมซึ่ง วว. ภาคภูมิใจ เป็นผลสำเร็จจากการดำเนินงานพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากบนฐานทรัพยากรในพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างศักยภาพในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม ในการสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าผลผลิตจากทรัพยากรในพื้นที่ ให้ได้มาตรฐาน ตรงตามความต้องการของตลาด รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้วยการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้ประกอบการให้กับชุมชน การทำงานร่วมกับชุมชนและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อการจัดการห่วงโซ่คุณค่าทรัพยากรในพื้นที่ให้มีการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จนมีเครือข่ายที่สามารถสร้างมูลค่าได้อย่างยั่งยืน …” ผู้ว่าการ วว. กล่าว

ในส่วนร้านค้าจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการโอทอปที่มาร่วมงานครั้งนี้ ซึ่งได้รับการพัฒนาและสนับสนุนจาก วว. และเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขัน และเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย กลุ่มประเภทอาหาร เครื่องดื่ม สมุนไพร ของใช้ของตกแต่ง เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย อาทิ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมบำรุงเส้นผมและหนังศรีษะ ผลิตบำรุงผิวจากสารสกัดมังคุด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าจากสารสกัดท้องทะเล แชมพูสมุนไพรปิดผมขาวจากสารสกัดขิง สบู่สครับผิวจากสารสกัดกาแฟ ผลิตภัณฑ์จากเห็ดถั่งเช่า ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากใบบัวบก มะพร้าวอ่อนแก้วคัดพิเศษ กาละแมสูตรโบราณนครพนม จมูกข้าวผงชงพร้อมดื่ม เครื่องดื่มนมแพะ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลูกหยี ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมสีธรรมชาติ ผ้าบาติกจากผงสีสกัดสีธรรมชาติ ผ้าทอมือลายเอกลักษณ์บ้านเชียง ผ้าไหมลายทอง ผ้าย้อมครามสะท้อนน้ำ ผลิตภัณฑ์เซรามิก พรมเอนกประสงค์เคลือบยางพารา และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมายจากทั่วประเทศ ซึ่งมีเอกลักษณ์และได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์โอทอป

วว. ขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวงาน OTOP City 2023 ร่วม ชิม ช้อป ใช้ กับสินค้าของผู้ประกอบการ พร้อมชมนิทรรศการนวัตกรรมทางด้านอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง สมุนไพร เทคโนโลยีในการผลิต บรรจุภัณฑ์ และผลิตผ้าจากเครือข่ายมหาวิทยาลัย ณ บูธ วว. อาคารชาเลนเจอร์ 2 หน้าเวทีกลาง เวลา 10.00-21.00 น. อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอทอป ให้มีช่องทางการตลาด มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้เข้มแข็งและยั่งยืน