วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.00 น. นางสาวซาร่า บินเย๊าะ ที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือส่งเสริมสวัสดิการและพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุเพื่อการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ระหว่างกรมกิจการผู้สูงอายุ และสมาคมข้าราชการบำเหน็จบำนาญกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ และนายแพทย์วินัย วิริยกิจจา นายกสมาคมข้าราชการบำเหน็จบำนาญกระทรวงสาธารณสุข และอดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงนาม พร้อมด้วย นางจิตรา หมีทอง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม ชั้น 19 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ
นางสาวซาร่า กล่าวว่า รัฐบาล โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีการส่งเสริม สนับสนุนให้ภาคธุรกิจ ภาคเอกชนและภาคีเครือข่าย เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต อาทิ การจ้างงานผู้สูงอายุ การสร้างหลักประกันทางการเงิน การดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง การพัฒนานวัตกรรม และบริการการดูแลสุขภาพ รวมทั้งการสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ให้กับผู้สูงอายุ ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อมและบริการสาธารณะ ซึ่งการลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. โดย กรมกิจการผู้สูงอายุ ร่วมกับ สมาคมข้าราชการบำเหน็จบำนาญกระทรวงสาธารณสุข วันนี้เพื่อให้เกิดในการสนับสนุนการดำเนินงานด้านสุขภาพ ในการร่วมมือกัน ช่วยเหลือ สนับสนุน หรือดำเนินการ ให้มีกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในด้านการสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง
นางสาวแรมรุ้ง กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยมีผู้สูงอายุร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด ประชากรสูงอายุแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ยังแข็งแรงอยู่ ซึ่งจะเป็นพลังในการทำงานเพื่อสังคม กับอีกกลุ่มหนึ่งก็คือเป็นกลุ่มที่เริ่มเปราะบาง จะอยู่ในภาวะติดบ้านและติดเตียง เมื่อกรมกิจการผู้สูงอายุ ผนึกกำลังกับทางสมาคมข้าราชการบำเหน็จบำนาญกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสมาคมฯ มีอดีตแพทย์ อดีตผู้ที่ทำงานทางด้านการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษอย่างมาก ที่จะนำความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่ท่านเคยทำงานมาต่อยอดในการดูแลผู้สูงอายุในกลุ่มที่เปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมกิจการผู้สูงอายุเอง ดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ (ศพส.) 12 แห่ง ซึ่งก็มีทั้งความเปราะบางเรื่องสุขภาพกายรวมถึงจิตใจ ดังนั้น จะเป็นการทำงานต่อยอดเพื่อยกระดับในการดูแลผู้สูงอายุใน ศพส. 12 แห่ง รวมถึงผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศด้วย
นายแพทย์วินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมข้าราชการบำเหน็จบำนาญกระทรวงสาธารณสุข มีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งสมาคมฯ มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการที่จะดูแลผู้สูงอายุ นอกจากดูแลกันในสมาคมฯ แล้ว ก็มีความประสงค์ที่จะทำประโยชน์ต่อชุมชน และสังคม ทางสมาคมฯ จึงจะร่วมกับกรมกิจการผู้สูงอายุขับเคลื่อนการดูแลด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ โดยมุ่งมั่นให้เกิดประโยชน์และให้มีความเหมาะสมกับผู้สูงอายุในแต่ละพื้นที่ที่มีสภาพปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน โดยมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ