วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ถนนสามเสน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 สำนักเครื่องจักรกล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำ (กรุงเทพมหานคร) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เป็นต้น เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำว่า ปัจจุบัน (13 พ.ย. 66) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 61,599 ล้าน ลบ.ม. (81% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 37,657 ล้าน ลบ.ม. (72% ของความจุอ่างฯรวมกัน) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 18,345 ล้าน ลบ.ม. (74% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ปริมาณน้ำใช้การได้ 11,649 ล้าน ลบ.ม. (64% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำช่วงฤดูแล้งปี 66/67 ทั้งประเทศไปแล้ว 1,599 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีจัดสรรไปแล้ว 254 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 5 ของแผนฯ
ทั้งนี้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งภาคกลาง ปริมาณฝนเริ่มลดลงแล้ว จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ตอนบนของประเทศ เร่งเก็บกักน้ำในช่วงปลายฝนให้ได้มากที่สุด พร้อมวางแผนการจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่และเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง เพื่อรับมือสภาวะเอลนีโญที่อาจจะส่งผลกระทบในปีถัดไป รวมทั้งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือประจำจุดเสี่ยง ที่สำคัญให้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานในท้องถิ่น กลุ่มผู้ใช้น้ำ ทำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกษตรกรและประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมปฏิบัติตาม 9 มาตรการรองรับฤดูแล้งปี 2566/67 ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอไปตลอดช่วงฤดูแล้ง
สำหรับพื้นที่ภาคใต้ที่อยู่ในช่วงฤดูฝน ขอให้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด นำสถิติปริมาณฝน และแบบจำลองสถานการณ์ฝนมาเป็นแนวทางในการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ควบคู่ไปกับการเก็บกัก พร้อมดำเนินการตามมาตรการที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และกรมฯ กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด