นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ กรมพัฒนาที่ดิน ได้เร่งผลิตสารบำบัดน้ำเสีย และขจัดกลิ่นเหม็นจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.6 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและประชาชน ช่วยในการบำบัดน้ำเสียหลังเกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน โดยได้มีการผลิตสารบำบัดน้ำเสีย จากเศษอาหารและวัสดุอินทรีย์ที่เหลือใช้ในครัวเรือน ในอัตราแนะนำ 1 ลิตร ต่อน้ำเสีย 10 ลูกบาศก์เมตร ทุกๆ 10 วัน และส่งเสริมการนำวัสดุอินทรีย์ที่มีอยู่ภายในชุมชนมาใช้ประโยชน์ทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์สำหรับปรับปรุงบำรุงดิน และรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมากรมพัฒนาที่ดิน ได้สนับสนุนสารบำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมมาโดยตลอด
สำหรับปีนี้ก็เช่นกัน ได้มีการจัดเตรียมสารบำบัดน้ำเสีย ให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่มีความเดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ และได้มีนโยบายให้สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัดทั่วประเทศ ลงพื้นที่แจกจ่ายสารบำบัดน้ำเสีย และขจัดกลิ่นเหม็นจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.6 พร้อมให้คำแนะนำ ให้ความรู้ในการบำบัดน้ำเน่าเสีย ซึ่งในกรณีเร่งด่วนสามารถใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.6 ขยายเชื้อในกากน้ำตาล น้ำสะอาด โดยหมักเป็นเวลา 4 วัน นอกจากจะใช้บำบัดเสียแล้ว ยังสามารถกำจัดลูกน้ำยุงรำคาญได้อีกด้วย แต่ควรใช้ในสภาพน้ำนิ่งเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น
อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการปรับปรุงดินหลังน้ำลด ได้เตรียมความพร้อมในการให้ความรู้และการจัดการดิน โดยแนะนำให้ฟื้นฟูดินตามชนิดพืช โดยทั่วไปให้ทำการระบายน้ำออก ถ้าในพืชผักให้ทำการยกร่อง ส่วนนาข้าวให้ใช้น้ำหมักชีวภาพจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2 ราด เพื่อให้ตอซังย่อยสลายได้เร็วขึ้น และทำการไถกลบ เนื่องจากสภาพน้ำท่วมทำให้เกิดการพัดพาธาตุอาหารออกไปจากพื้นที่และดินมีความแน่นทึบ แนะนำให้ใส่ปุ๋ยหมักจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.1 ในแปลงปลูกเพื่อเพิ่มความร่วนซุยของดิน และใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.3 ร่วมด้วยเพื่อกำจัดโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล ทั้งนี้ เกษตรกรและประชาชนสามารถขอรับบริการผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ พด. เพื่อนำไปปรับปรุงดินหลังน้ำลด ได้ที่ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1 – 12 และสถานีพัฒนาที่ดินประจำจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน กรมพัฒนาที่ดิน กรุงเทพฯ โทร 1760