บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) คุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย และมูลนิธิธรรมดี พร้อมด้วยการสนับสนุนหนังสือจากโครงการอมรินทร์อาสาอ่านพลิกชีวิต อมรินทร์กรุ๊ป จัดงาน ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 34 ด้วยการจัดกิจกรรมพาครูอาจารย์ และผู้สนใจ ลงพื้นที่ ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 28 – 29 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
โดยได้รับเกียรติจากนายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มาร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดงาน เนื่องในโอกาสวันนวมินทรมหาราช วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ เบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ความสำคัญของการเกษตร และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า เรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้ภูมิปัญญา นวัตกรรมการเกษตร สู่การปฏิบัติและประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
นางวิชชุดา โตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิพยประกันภัย เป็นองค์กรที่พร้อมสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความแข็งแรงและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก ESG ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเป็นแนวทางการบริหารจัดการองค์กร กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ โดยสนับสนุนให้ครูอาจารย์ให้ได้มีความเข้าใจในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงหลักทรงงานตามแนวพระราชดำริ เรียนรู้ด้วยประสบการณ์จากการลงมือทำสามารถนำไปต่อยอดขยายผลกับนักเรียนเพื่อให้มีความเข้าใจ ตลอดจนประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ที่จะช่วยพัฒนาสังคมให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และ ประธานมูลนิธิธรรมดี กล่าวเพิ่มเติมว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชาสามารถรอบด้าน ผู้ทรงเสียสละเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและแผ่นดินไทย พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนไทยได้เดินตามรอย ทั้งนี้คุณธรรมหลัก 5 ประการ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู เป็นเรื่องที่เราสามารถนำมาพัฒนาตนและนำไปใช้ปฏิบัติเพื่อเดินตามรอยพระองค์ท่าน เราทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
นอกจากนี้ คณะผู้ร่วมกิจกรรมยังได้ร่วมกิจกรรมปล่อยปลาถวายเป็นพุทธบูชา และร่วมมอบหนังสือจากโครงการ อ่านพลิกชีวิต ของอมรินทร์กรุ๊ป มอบทุนการศึกษาจากมูลนิธิธรรมดี ให้กับโรงเรียนในจังหวัดปทุมธานี ทำกิจกรรม Workshop การถอดบทเรียนนวัตกรรมศาสตร์พระราชา โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย และการบรรยายถอดรหัสพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดย ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี การบรรยายเรื่องคุณธรรมในยุคดิจิทัล โดย รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม นับว่าเป็นการได้เรียนรู้ พัฒนา และบูรณาการความรู้ครบทุกมิติ ทั้งด้านตนเอง สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อก้าวสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามนโยบาย UNSDG ภายในปี 2030 ทั้งนี้ ครูอาจารย์ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับประกาศนียบัตรว่าได้ผ่านการอบรมจากโครงการฯ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นหนึ่งในกิจกรรมการพัฒนาตนเองในการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจากคุรุสภาได้