รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ครั้งที่ 6/2566 วันที่ 24 ตุลาคม 2566 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ไชยยงค์ ชูชาติ ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการยกระดับเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ตามที่ประชุม คปก. ครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 11 ข้อ พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณากฎหมายและระเบียบ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อปรับปรุงสิทธิการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งคณะอนุกรรมการได้ประชุมพิจารณาแก้ไขระเบียบ คปก. ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 เพื่อเสนอ คปก. พิจารณาในวันนี้
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุม คปก. ในวันนี้ได้มีมติรับทราบความก้าวหน้าในการแก้ไขระเบียบ คปก. ทั้ง 3 ฉบับ ตามที่คณะอนุกรรมการเสนอ ซึ่งถือว่าเป็นความคืบหน้าตาม Roadmap ที่ได้วางไว้ในการยกระดับเอกสารสิทธิเป็น “โฉนดเพื่อเกษตรกรรม” ซึ่งหลังจากนี้ ส.ป.ก. จะได้นำร่างระเบียบ คปก. ทั้ง 3 ฉบับ ไปดำเนินการทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป และจะนำกลับมาให้ คปก. เห็นชอบร่างฉบับสุดท้ายเพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และจะเริ่มแจกโฉนดเพื่อเกษตรกรรมฉบับแรกได้ทันวันที่ 15 มกราคม 2567 อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการได้ดำเนินการปรับปรุงระเบียบ คปก. ภายใต้กรอบแนวทางจำนวน 4 ข้อ ดังนี้
1. เห็นควรกำหนดชื่อเอกสารว่า “โฉนดเพื่อเกษตรกรรม”
2. กำหนดแนวทางในการเปลี่ยนมือไว้ 2 วิธี คือ การตกทอดทางมรดก และการซื้อขายหรือการจำนองแบบมีเงื่อนไข โดยไม่ใช่การซื้อขายหรือจำนองกับนายทุน
3. กำหนดให้มีการตรวจสอบติดตามการใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยกำหนดโครงสร้างการตรวจสอบที่มีทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยอาจแต่งตั้งคณะทำงานหรือคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบติดตามทุก 5 ปี โดยมีคณะกรรมการจังหวัดซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และปฏิรูปที่ดินจังหวัด เป็นฝ่ายเลขานุการ
4. กำหนดให้มีการบูรณาการโดยนำสหกรณ์การเกษตร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่เป็นการสร้างองค์กรใหม่
พร้อมกันนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวยืนยันว่า “พี่น้องเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้และจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน” และได้กล่าวย้ำว่า “โฉนดเพื่อเกษตรกรรมนั้นมีสิทธิไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าโฉนดที่ดินของกระทรวงมหาดไทย เพราะนอกจากพี่น้องเกษตรกรจะได้รับที่ดินทำกินแล้ว ส.ป.ก. ยังเข้าไปพัฒนาสาธารณูปโภค ขั้นพื้นฐานที่จำเป็นทั้งถนน แหล่งน้ำ ระบบกระจายน้ำ ระบบไฟฟ้า ที่อยู่อาศัย เป็นต้น รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การสนับสนุนเงินทุนในการประกอบอาชีพ และขอฝากทิ้งท้าย เชิญชวนให้เกษตรกรเข้ามาทำประชาพิจารณ์ด้วย”