เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ในช่วงระยะเวลา 7 เดือนประจำปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 – เมษายน 2562) โดยเปรียบเทียบกับปีก่อน สรุปดังนี้
ทกท. เรือเทียบท่า 2,181 เที่ยว เพิ่มขึ้น 20.63 % สินค้าผ่านท่า 12.007 ล้านตัน ลดลง 5.94%
ตู้สินค้าผ่านท่า 0.835 ล้าน ที.อี.ยู. ลดลง 4.09 %
ทลฉ. เรือเทียบท่า 6,426 เที่ยว ลดลง 5.64 % สินค้าผ่านท่า 53.084 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.01 %
ตู้สินค้าผ่านท่า 4.761 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 3.14 %
ทชส. เรือเทียบท่า 1,549 เที่ยว ลดลง 32.06 % สินค้าผ่านท่า 124,370 ตัน ลดลง 23.29 %
ทชข. เรือเทียบท่า 645 เที่ยว เพิ่มขึ้น 127.92 % สินค้าผ่านท่า 36,076 ตัน ลดลง 6.41 %
ทรน. เรือเทียบท่า 210 เที่ยว เพิ่มขึ้น 13.51 % สินค้าผ่านท่า 91,833 ตัน เพิ่มขึ้น 83.38 %
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ กทท. มีแนวโน้มขยายตัวไม่มาก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่ม ชะลอตัวมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 สืบเนื่องจากการชะลอตัวของภาคการส่งออกของประเทศในภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ยังคงยืดเยื้ออยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดีการที่มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อาจส่งผลดีต่อการเกิดเสถียรภาพ ทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กทท. ได้คาดการณ์ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 จะมีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่ารวมที่ 9.790 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากปีที่ผ่านมา