คุ้มครองสิทธิ : เยียวยาแพะคดีค้ามนุษย์ 2.9 แสนบาท

จากกรณีที่ไต้ก๋งเรือประมง ต้องตกเป็นแพะในคดีอาญา ถูกเจ้าพนักงานจับกุมดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ซึ่งต่อมาศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้เสียหายให้ปากคำไปในทำนองเดียวกัน เรื่องอายุของไต้ก๋งเรือที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับอายุของจำเลยในขณะเกิดเหตุ และผู้เสียหายไม่ได้เบิกความยืนยันว่าจำเลยเป็นไต้ก๋งเรือประมงที่ข่มขู่ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย จึงไม่อาจยืนยันได้ว่าจำเลยได้ทำร้ายร่างกายและข่มขู่ และไต้ก๋งเรือที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายไม่น่าจะเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลย โดยศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น รวมระยะเวลาการถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดี 271 วัน

วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่าตนเองรู้สึกเสียใจที่ไต้ก๋งเรือประมงต้องตกเป็นแพะในคดีอาญา และถูกคุมขังเป็นระยะเวลาถึง 271 วัน โดยปัจจุบันศาลได้มีคำพิพากษาคืนความบริสุทธิ์ให้กับไต้ก๋งเรือรายดังกล่าวแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ซึ่งมี นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน และ นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ได้มีการประชุมครั้งที่ 9/2566 ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือ ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) แก่แพะรายดังกล่าว เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 293,968 บาท

อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการช่วยเหลือเยียวยาจำเลยหรือแพะในคดีอาญา ที่ถูกดำเนินคดี โดยพนักงานอัยการ ถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดี และศาลสุดท้ายตัดสินยกฟ้องว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด และพร้อมยืนเคียงข้างผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง