บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2566 ระดับประเทศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ประเภทไม่มีสหภาพแรงงาน กลุ่มสถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ จัดโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน โดยได้รับเกียรติจากนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประธานในพิธี เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ นางภัทรพร เทิดชนะกุล รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้แทนบริษัทฯ ฝ่ายนายจ้าง เเละนางสาวศุภพร ชัยสุวรรณ กรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ ผู้แทนบริษัทฯ ฝ่ายลูกจ้าง ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 จากการที่บริษัทฯ มีการบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการที่มีมาตรฐานและเหมาะสม รวมถึงสร้างบรรยากาศการทำงานเพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงและปลอดภัย นำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด และสร้างความเติบโตก้าวหน้าให้แก่องค์กรอย่างยั่งยืน
โดยบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับบริบทสังคมยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน สร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการทำงาน กำหนดโครงสร้างเงินเดือนที่เหมาะสม มีชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น ให้โอกาสเเละอำนวยความสะดวกต่อการที่พนักงานจะพัฒนาตนเองหรือศึกษาความรู้เพิ่มเติม เคารพสิทธิมนุษยชนเเละความเเตกต่างของเเต่ละบุคคล พร้อมกับการเสริมสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับองค์กร
ไม่เพียงเท่านี้ บริษัทฯ ยังได้จัดสรรสวัสดิการให้ครอบคลุมทุกความต้องการ อย่างการประกันชีวิตเเละประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาลที่รวมถึงด้านทันตกรรม การตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ พร้อมการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สร้างสภาพเเวดล้อมในการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายเเละข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ พนักงานทุกคนยังสามารถลาพักผ่อนได้ตั้งเเต่เริ่มงาน โดยจะได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นตามอายุงานเเละตำเเหน่งงาน พร้อมเข้าถึงสวัสดิการด้านเงินกู้ เพื่อบรรเทาภาระด้านการเงินในกรณีที่มีความจำเป็นด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ เเละรางวัลโบนัสประจำปี
กรุงเทพประกันภัยเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงาน ผ่านการฝึกอบรม Training Needs by Position เสริมความรู้เเละทักษะที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานให้สามารถปฎิบัติงานได้อย่างถูกต้อง เเละ On the Jobs Training (OJT) ฝึกอบรมเเละเรียนรู้งานจากการปฎิบัติงานจริง โดยมีการวัดผลเพื่อนำไปพัฒนาการปฎิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเป็นการฝึกอบรมทั้งภายในเเละภายนอกบริษัทฯ รวมถึงสนับสนุนการศึกษาภาษาต่างประเทศ การศึกษาในหลักสูตรประกันวิชาชีพ การศึกษาระดับปริญญาโท จัดทัศนศึกษาและสัมมนาทั้งในประเทศเเละต่างประเทศ พร้อมการจัดบรรยายพิเศษเกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนาทักษะการทำงานและการใช้ชีวิต กิจกรรมให้ความรู้ด้านการเงินและการลงทุน เพื่อให้พนักงานสามารถนำทักษะมาต่อยอดความรู้เเละประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ทั้งการทำงานและชีวิตประจำวัน
ด้านการส่งเสริมสุขภาพนั้น บริษัทฯ ได้มีการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ อย่างคอร์สเรียนโยคะ เต้นแอโรบิก มีสนามแบดมินตัน และการนวดผ่อนคลายโดยผู้พิการทางสายตา รวมไปถึงจัดการแข่งขัน e-Sport ภายในบริษัทฯ เพื่อเชื่อมความสามัคคีและทักษะการทำงานเป็นทีม โดยนอกเหนือจากการดูแลสุขภาพกายแล้ว ด้านสุขภาพใจของพนักงานก็เป็นสิ่งที่กรุงเทพประกันภัยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้มีการปรับเพิ่มสวัสดิการด้านประกันสุขภาพและขยายความคุ้มครองการรักษาให้ครอบคลุมโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล พร้อมจัดโครงการ “แคร์ใจ” บริการให้คำปรึกษาด้านจิตใจโดยนักจิตวิทยาผ่านช่องทางออนไลน์ และการบรรยายในหลักสูตรต่างๆ เกี่ยวกับการเพิ่มพลังใจเพื่อคลายความเครียด การเข้าใจตนเอง และกิจกรรมศิลปะบำบัด เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งสร้างจิตสำนึกให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อดูแลและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ เช่น อาสาพัฒนาโรงเรียน บริจาคโลหิต โครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ขาดแคลน ทุนการศึกษานักเรียนเรียนดี และกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย
โดยรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่บริษัทฯ และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการกำกับดูเเลกิจการที่ดี ซึ่งถือเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้กรุงเทพประกันภัยมุ่งมั่นบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมเเละเท่าเทียม ส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตั้งเเต่พนักงานไปจนถึงคู่ค้า ชุมชน ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตามเเนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งเเวดล้อม สังคม เเละธรรมาภิบาล เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมควบคู่ไปกับการมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสมดุลต่อไป