มทร.ธัญบุรี คว้าอันดับ 4 ของประเทศ โครงการ ‘ปั้น Gen Z เป็น CEO’

รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เผยว่า ตามที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ได้ดำเนินโครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ ‘From Gen Z to be CEO’ ประจำปี 2566 ร่วมกับ มทร.ธัญบุรี ในการเพิ่มพูนองค์ความรู้ และพัฒนาศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ซึ่งมีนักศึกษาจาก มทร.ธัญบุรี จำนวน 12 ราย สามารถทำแบบทดสอบของโครงการได้คะแนนสูงสุด 100 ลำดับแรกของประเทศ (TOP 100) จากจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศกว่า 23,800 ราย ซึ่งสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ได้จัดพิธีสรุปผลโครงการ โดยมี นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานและมอบประกาศนียบัตรในพิธีสรุปผลโครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ ณ แกรนด์ฮอลล์ ทรูดิจิทัล พาร์ค สุขุมวิท 101

อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวอีกด้วยว่า ในการปั้นซีอีโอของปีนี้ มทร.ธัญบุรี 12 รายที่ติดอันดับ TOP 100 เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 จากคณะบริหารธุรกิจ 11 ราย และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 ราย ขณะเดียวกัน มทร.ธัญบุรี ยังติดอันดับ 4 ของจำนวนนักศึกษาที่ติดอันดับคะแนนสูงสุด 100 ลำดับแรก จากทั้งหมด 17 สถาบัน พร้อมกันนี้ยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติให้เป็นสถาบันการศึกษาดีเด่นประจำปี 2566 ที่ให้การสนับสนุนและขับเคลื่อนนโยบายของโครงการอย่างดียิ่ง พร้อมกันนี้มีผู้บริหารจาก มทร.ธัญบุรี เข้ารับรางวัลบุคลากรดีเด่นคือ นายวิรัช โหตระไวศยะ รองอธิการบดี และ รศ.ดร.อำนวย เรืองวารี ผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

“ด้วยแนวนโยบายและการผลักดันโครงการฯ ทำให้นักศึกษาสนใจเข้าร่วมโครงการมากกว่า 6,302 ราย ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดของประเทศ และมีนักศึกษาเข้าทำแบบทดสอบของโครงการกว่า 4,702 ราย สามารถสอบผ่านเกณฑ์มากถึง 1,012 ราย มทร.ธัญบุรี ยังสนับสนุนให้นักศึกษาที่ร่วมโครงการและได้คะแนนสอบ 70% ขึ้นไป สามารถนำผลการทดสอบดังกล่าวมาขอยกเว้นรายวิชาความเป็นผู้ประกอบการ ภายใต้ข้อกำหนดและประกาศของมหาวิทยาลัย และเชื่อมั่นว่า นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะเข้าใจภูมิทัศน์ทางธุรกิจการตลาดและความเป็นผู้ประกอบการ ได้แนวทางไปขยายและต่อยอดในท่ามกลางความท้าทายในยุคเทคโนโลยีพลิกผัน” รศ.ดร.สมหมาย กล่าวสรุป.