DSI จับมือ สวทช. ลงนาม MOU ขยายความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน พัฒนางานวิชาการและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ยกระดับมาตรฐานด้านการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ

วันที่ 24 สิงหาคม 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ทางวิชาการและการวิจัยพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อขยายระยะเวลาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่อไปอีก 5 ปี (ถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2571) เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ

โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษมี ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ เพ็ญภาค ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ เป็นผู้ร่วมลงนาม และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มี ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สายงานบริหารการวิจัยและพัฒนา และ ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นผู้ร่วมลงนาม ณ ห้องรับรองชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์

1. เพื่อวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษและงานความมั่นคง

2. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ

3. เพื่อเสริมสร้างและแลกเปลี่ยนบุคลากร ความรู้ ประสบการณ์และข้อมูลทางวิชาการในการดำเนินงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษและความมั่นคง

4. เพื่อขยายผลการนำผลงานวิจัยพัฒนาไปสู่การใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติรวมทั้งขยายเครือข่ายความร่วมมือไปหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สวทช. ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันดำเนินการวิจัยพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชน โดยเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและยกระดับมาตรฐานด้านการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษให้มีมาตรฐานในระดับสากลต่อไป