กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จัดกิจกรรม DJOP Innovation Expo

วันที่ 3 สิงหาคม 2566 เวลา 09.00 – 16.30 น. กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับ บริษัท มิตตา วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม DJOP Innovation Expo ภายใต้หัวข้อ “เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า…For a Better Tomorrow” ในโครงการ DJOP สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม (DJOP Innovation)

โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วย คุณปิยะ ซอโสตถิกุล กรรมการบริษัท มิตตา วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ร่วมกล่าวให้กำลังใจแก่เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ อีกทั้ง ได้รับเกียรติจาก คุณชลลดา พรหมเดชไพบูลย์ ประธานมูลนิธิชลลดา และแขกผู้มีเกียรติที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน เด็กและเยาวชน และครูผู้สอน จำนวน 70 คน จากศูนย์ฝึกและอบรมฯ ทั่วประเทศ ที่ได้รับการคัดเลือก 10 แห่ง เข้าร่วมฯ


พ.ต.ท.วรรณพงษ์ฯ กล่าวให้กำลังใจแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ว่า “สิ่งที่เยาวชนได้แสดงให้เห็นในวันนี้ ทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถปิดกั้นจินตนาการของเราได้ ทุกคนได้แสดงให้โลกรู้ว่าเราทำอะไรได้ นั่นหมายถึงว่าเรามีโอกาส และเราได้ลงมือทำ ซึ่งต้องมีครบทั้ง 3 สิ่ง นั่นคือ “มีความคิด มีจินตนาการ และโอกาส” ที่บางครั้งเราอาจจะมีไม่ครบ เราอาจจะมีแค่ความคิด และจินตนาการ แต่ไม่ได้รับโอกาส แต่วันนี้ที่ทุกท่านได้มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ถือว่าท่านมีครบทั้ง 3 อย่างพร้อมกัน อยากให้ทุกคนจดจำวันนี้ไว้ และอย่าลืมส่งมอบสิ่งดีๆ นี้ไปให้กับรุ่นต่อๆ ไป ทั้งเพื่อนของเราที่ไม่ได้มาในวันนี้ บุคคลที่เราเคารพนับถือ และบุคคลที่เราควรให้โอกาสเขาในโลกภายนอก สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่วัตถุหรือไม่ใช่แค่ความคิดที่เรานำเสนอออกมา แต่มันจะสะท้อนไปถึงความรู้สึกทุกอย่างที่เราทำขึ้นนั้น เราสรรสร้างเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเราทุกคน นี่คือส่วนลึกที่ออกมาจากความรู้สึกข้างในของเราที่อยากจะทำเพื่อสังคม ที่สร้างมาจากหัวใจของเรา ผมขอชื่นชมและยกย่องทุกคน และดีใจที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ที่เป็นความคิดความอ่านของพวกท่าน และอยากฝากว่าขอให้ท่านส่งมอบสิ่งเหล่านี้แก่คนอื่นๆ ด้วย อย่าเก็บไว้คนเดียว เพื่อให้สิ่งที่ดีงามนี้ได้เผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นๆ ต่อไป”

คุณปิยะฯ กล่าวกับเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการฯ ว่า “สิ่งที่ทำให้ผมภาคภูมิใจในวันนี้ คือ เราได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ เพราะสิ่งที่น้องๆ ได้ทำนี้ไม่ได้แตกต่างจากบริษัท Start up อื่นๆ ที่เขาก็ออกแบบนวัตกรรมเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งก่อนอื่นน้องๆ ต้องรู้ Pain Point หรืออุปสรรค ปัญหาที่เราอยากจะแก้ไขก่อน คุณต้องรู้ว่าอะไรคือปัญหา และอยากที่จะแก้ปัญหานั้นอย่างไร คุณต้องตั้งเป้าหมาย ต้องวางแผน ออกแบบ และลงมือทำ จากนั้นก็ต้องทดลองทำจนกว่าจะสำเร็จ ผมเชื่อว่าคุณอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จในครั้งแรก และคุณอาจต้องลองทำเป็นสิบๆ ครั้ง กว่าจะได้ผลงานออกมาให้พวกเราได้เห็นกันในวันนี้ การที่เราพบอุปสรรค และก้าวข้ามผ่านมันมาได้ มันจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับเรา และในชีวิตจริงก็เป็นอย่างนี้ ผมเชื่อว่าไม่มีโรงเรียน หรือหลักสูตรไหนทำให้น้องๆ เก่งได้เลย ถ้าน้องๆ ไม่ลงมือทำมันด้วยตัวเอง ขอให้น้องๆ มั่นใจ และขอให้เก็บแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจนี้เอาไว้ เราสามารถสร้างสิ่งต่างๆ ให้โลกใบนี้ได้อีกมากมาย ขอให้คุณมุ่งมั่นที่อยากจะทำ ระเบิดมันออกมาจากข้างใน คุณจะทำมันได้อย่างแน่นอน”

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชน และครูผู้สอน ได้พัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อโลกยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นทักษะการเป็นนวัตกร ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทักษะการคิดในรูปแบบต่างๆ เป้าหมายสูงสุดเพื่อให้สามารถนำทักษะดังกล่าวไปใช้ต่อยอดในการประกอบอาชีพ และใช้ชีวิตภายหลังได้รับการปล่อยตัว ซึ่งได้รับการออกแบบหลักสูตร และดำเนินงานสอนโดยบริษัท มิตตา วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางตามแนวทาง Constructionism และกลั่นกรองทักษะความรู้ออกมาเป็นผลงานนวัตกรรมที่พร้อมสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชนและสังคมต่อไป ซึ่งภายในโครงการมีกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมนําเสนอผลงาน : กลั่นกรองความรู้สู่นวัตกรรมเพื่อสังคม, กิจกรรมมินิคอนเสิร์ตจากเด็กและเยาวชน, กิจกรรมสะท้อนการเรียนรู้ : บทเรียนจากโครงการฯ และพิธีประกาศและมอบรางวัล โดยจัดกิจกรรมและการประกวดในงาน DJOP Innovation Expo ณ ห้อง Conference Room ชั้น 2 อาคารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

โอกาสนี้ นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจฯ ได้ให้เกียรติมอบของที่ระลึกแก่คณะกรรมการ ทั้ง 6 ท่าน และมอบโล่รางวัล พร้อมเกียรติบัตรให้แก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยผลการประกวดมีดังต่อไปนี้

– รางวัลที่ 1 รางวัลประเภท I like your idea! สุดยอดความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี

– รางวัลที่ 2 รางวัลประเภท My Idol! สุดยอดทักษะการนำเสนอ ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา

– รางวัลที่ 3 รางวัลประเภท The Hulk สุดยอดความอดทนและพากเพียร ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนสิรินธร

– รางวัลที่ 4 รางวัลประเภท The Avengers สุดยอดทีมเวิร์ค ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 จังหวัดยะลา

– รางวัลที่ 5 รางวัลประเภท Future Tony Stark หรือเปล่าเนี่ย! สุดยอดนวัตกรรม ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก

– รางวัล Popular Vote ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก

และเกียรติบัตรแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านมุทิตา, บ้านบึง, เขต 1 จังหวัดระยอง, เขต 2 จังหวัดราชบุรี และเขต 7 จังหวัดเชียงใหม่