กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ร่วมกับมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนที่พื้นที่สูง ตั้งแต่วันที่ 21 – 23 กรกฎาคม 2566
โดยในวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.00 น. ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร นายอนุกูล ปีดแก้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีกราบลาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง และพิธีปลงผมนาคราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปี 2566 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมให้โอวาทแก่นาคที่เข้าพิธีฯ โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ผู้บริหารกระทรวง พม. เจ้าหน้าที่ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ผู้บริหารบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด และบริษัท ซีพีแรม จำกัด ครอบครัวและญาติของผู้บรรพชาอุปสมบท และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมปลงผมนาคฯ ณ ลานโพธิมณฑลพุทธานุสรณ์สัตตมหาสถาน
พิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปี 2566 ในปีนี้เป็นปีที่ 58 มีผู้ขอบรรพชาอุปสมบททั้งสิ้น 205 รูป แบ่งออกเป็น บรรพชา (สามเณร) 75 รูป และ อุปสมบท (พระนวกะ) 130 รูป โดยมาจากกลุ่มเป้าหมายของศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง 10 จังหวัด รวม 10 ชาติพันธุ์ ทั้งนี้ พิธีดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนให้ราษฎรบนพื้นที่สูงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งจะนำมาสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนววิถีพุทธ
ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2566 เวลา 18.00 น. ณ พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมพิธีปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ เพื่อเตรียมเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทต่อประธานคณะพระธรรมจาริก (พระธรรมวชิราธิบดี ประธานฝ่ายสงฆ์) พร้อมทั้งได้ให้โอวาทแก่นาคราษฎรบนพื้นที่สูง
และวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.00 น. พระธรรมวชิราธิบดี เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานฆราวาสในพิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปี 2566
นายจุติ กล่าวว่า พิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ภายใต้โครงการ “พระธรรมจาริก” ได้น้อมนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่มุ่งพัฒนาทางคุณภาพชีวิตทุกมิติให้กับราษฎรบนพื้นที่สูง รวมถึงเป็นการสร้างจิตสำนึกในความเป็นไทย และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการพระธรรมจาริก ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในการถวายปัจจัย เครื่องอุปโภคบริโภค และสนับสนุน การพัฒนางานพระธรรมจาริกมาโดยตลอด
ตลอดระยะเวลาเกือบ 6 ทศวรรษ มีราษฎรบนพื้นที่สูงเข้าร่วมบรรพชาอุปสมบทจำนวนทั้งสิ้น 12,504 รูป ซึ่งเกิดขึ้นจากความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาในการสืบสานพระพุทธศาสนาถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้ หลังจากที่บรรพชาอุปสมบทแล้ว จะเข้ารับการศึกษาพระธรรมวินัย และวิชาการต่าง ๆ ทั้งสายปริยัติธรรมและสายสามัญ เมื่อจบการศึกษาแล้ว หากอยู่ในสมณเพศจะออกปฏิบัติงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาร่วมกับพระธรรมจาริก ส่วนผู้ที่ลาสิกขาบทจะได้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ และทำประโยชน์ให้แก่ครอบครัวและชุมชนต่อไป