วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นรองประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๓๐(30thASEAN Senior Officials Meeting on the Environment: 30th ASOEN) ที่จัดขึ้นในวันที่ ๑๐-๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ โดยในการประชุมวันแรก ประเทศไทยได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเล เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษเรื่อง การป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ ๒๑- ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประเทศสมาชิกร่วมแสดงความยินดีกับความความสำเร็จของระเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพทั้ง ๒ การประชุม และยินดีที่จะร่วมขับเคลื่อนการดำเนินการให้ปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน และแถลงการณ์เชียงใหม่ของรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบการดำเนินการตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมายให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมเนื่องจากเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ร่วมกันของอาเซียน
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับการประชุม Climate Action Summit 2019 และร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนต่อที่ประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๕ ที่ยกร่างและเสนอโดยประเทศไทย เพื่อนำไปเสนอให้ที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑๕ ให้การรับรอง จึงจะแถลงต่อเวทีระดับโลกให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของอาเซียนต่อประเด็นปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึง ให้ความเห็นชอบต่อการขึ้นทะเบียนอุทยานมรดกอาเซียนแห่งใหม่ จำนวน ๕ แห่ง เป็น ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม – เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่ เกาะลิบง และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ของไทย อุทยาน แห่งชาติ Lo Go – Xa Mat และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Ngoc Linh ของเวียดนาม และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Htamanthi ของเมียนมา