UniNet พบมหาวิทยาลัยครบทุกภูมิภาคแล้ว เตรียมนำข้อเสนอและแนวคิดที่ดีมาปรับใช้เพื่อการบริการที่เป็นเลิศ

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน : ผศ.ประมา ศาสตระรุจิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา (สบทศ.) หรือ UniNet กล่าวว่า สำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา จะเน้นให้สถาบันอุดมศึกษาเข้ามาใช้งานระบบในทุกรูปแบบ โดยเชื่อมต่อสถาบันอุดมศึกษาไทยเข้าด้วยกันและเชื่อมไปยังต่างประเทศ ใช้งานผ่านโครงข่าย โปรแกรม บทเรียน ห้องปฏิบัติการ กิจกรรมออนไลน์ เครือข่ายห้องสมุด ฐานข้อมูลสืบค้นเพื่อการศึกษาและการวิจัยได้อย่างมากมาย ทันสมัยและเพียงพอ ซึ่ง UniNet เป็นหน่วยที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดหาและบำรุงรักษามาอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยเพียงแต่เข้ามาใช้ทรัพยากรร่วมกันให้คุ้มค่าและร่วมกันทำให้สิ่งที่รัฐลงทุนไปเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อระบบการศึกษาไทย

จากการได้เดินทางไปพบผู้รับผิดชอบงานด้านไอทีในมหาวิทยาลัย ทั้ง 5 ภูมิภาค ทำให้ทราบว่า สิ่งที่ UniNet และชาวมหาวิทยาลัยจะต้องตระหนักร่วมกันคือการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะเก็บ รวบรวม ประมวลผล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้หลักการและรายละเอียดตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจาก PDPA พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 คือกฎหมายใหม่ที่ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาการถูกล่วงละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากประกาศใช้สาระที่กำหนดในพระราชบัญญัติทำให้สถาบันอุดมศึกษาไทยกลายเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของคนทุกเพศทุกวัย ทุกสถานภาพ ทั้งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป และข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เนื่องจากสถาบันอุดมศึกษา ส่วนใหญ่จะมีโรงเรียนสาธิตซึ่งเป็นสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของมหาวิทยาลัยอยู่ในสังกัด อว. ซึ่งจะมีการจัดเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ มีข้อมูลส่วนบุคคลของอาจารย์ บุคลากรทุกระดับ และมีข้อมูลส่วนบุคคลของนิสิตนักศึกษาในคณะต่างๆ ทุกชั้นปี รวมแล้วหลายแสนราย อีกทั้งสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งมีโรงเรียนแพทย์และมีโรงพยาบาลในสังกัดให้บริการด้านการสาธารณสุขและค้นคว้าวิจัยด้านการแพทย์ ซึ่งมีการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพของผู้มารับบริการ ทั้งบุคคลสัญชาติไทย บุคคลต่างด้าว รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวด้านอื่นๆ ในมิติเศรษฐกิจ และสังคมพหุวัฒนธรรม.

“รายการของข้อมูลที่มหาวิทยาลัยต้องจัดเก็บ รวบรวม ประมวลผลเพื่อใช้งาน หรือเปิดเผยข้อมูลตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ต้องอยู่ภายใต้หลักการ รายละเอียดและเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด รวมถึงความรับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บไว้ก่อน พ.ร.บ.ประกาศใช้ กรณีที่การดำเนินการต่างๆ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ก็ได้มีการกำหนดบทลงโทษไว้ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยโดยตรง ในโครงการ UniNet พบมหาวิทยาลัยวิทยากรที่ UniNet เชิญมาให้ความรู้ PDPA และแลกเปลี่ยนในแนวปฏิบัติร่วมกัน เป็นผู้อำนวยการสำนักคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย เป็นคณะกรรมการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัยและที่ปรึกษาด้านพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชนและสถานศึกษาอีกหลายแห่ง หลังจบโครงการนี้ UniNet คาดหวังให้ข้อเสนอแนะและแนวปฏิบัติที่ดี ถูกนำมาปรับใช้ร่วมกันเพื่อการบริการที่เป็นเลิศ การดำเนินการด้าน PDPA ในมหาวิทยาลัยถูกต้อง เหมาะสม ตามมาตรฐานและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพื่อประโยชน์และความเชื่อมั่นของผู้รับบริการ” ผอ.UniNet กล่าวในตอนท้าย