ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานวันไข้เลือดออกอาเซียน ประจำปี 2566 ชี้ ไข้เลือดออกระบาดหนักสุดในรอบ 3 ปี พบอัตราป่วยสูงสุด คือ กรุงเทพฯ ภาคใต้ และภาคกลาง นักเรียนป่วยมากสุด เดินหน้าผนึกกำลัง กทม. และ 9 ภาคีรัฐและเอกชน รณรงค์ป้องกันการเสียชีวิตจากไข้เลือดออก พร้อมมอบรางวัลประกวดสื่อสร้างสรรค์ ให้คนไทยตระหนักถึงภัยใกล้ตัวและความน่ากลัวของไข้เลือดออก
วันที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่เดอะฮอลล์ กรุงเทพฯ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานวันไข้เลือดออกอาเซียน ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “ก้าวสู่สังคมไทย ไม่ป่วยตายด้วยไข้เลือดออก” (Moving Forward to Zero Dengue Death) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และ 9 พันธมิตร ได้แก่ บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด, สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.), การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน), กลุ่มบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ Dengue-Zero และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมรณรงค์ป้องกัน-รู้เท่าทัน ต้านการเสียชีวิตจากไข้เลือดออก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะระบาดหนักที่สุดในรอบ 3 ปี พร้อมมอบเงินรางวัลมูลค่ารวม 100,000 บาท แก่ผู้ชนะการประกวดสื่อสร้างสรรค์ “ASEAN Dengue Day Contest 2023” ที่จัดขึ้นเป็นปีแรก เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงภัยใกล้ตัวและความรุนแรงของโรค
นพ.โอภาส กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกเป็นโรคประจำถิ่นที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศไทยและอาเซียน โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2566 ประเทศไทยมีผู้ป่วยถึง 18,173 ราย มากกว่าปีที่แล้วถึง 4.2 เท่า เป็นการระบาดสูงสุดในรอบ 3 ปี และมีผู้เสียชีวิต 15 ราย เฉลี่ยมีผู้ป่วยสัปดาห์ละ 900 ราย เสียชีวิตสัปดาห์ละ 1 ราย พบอัตราป่วยสูงสุด คือ กรุงเทพฯ ภาคใต้ และภาคกลาง โดยนักเรียนอายุ 5-14 ปี ป่วยสูงสุด รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 15-24 ปี กระทรวงสาธารณสุขจึงดำเนินการ 3 กลยุทธ์ คือ 1) Rebrand รณรงค์ป้องกันก่อนเกิดโรค ปรับภาพลักษณ์หน่วยงานรัฐด้วยนโยบายเชิงรุก 2) Rethink เปลี่ยนความคิดคนไทยให้รู้เท่าทันภัยร้ายของไข้เลือดออก เริ่มต้นจากการดูแลตนเอง และ 3) Reconnect ผนึกกำลังภาคีรัฐและเอกชน ชูนวัตกรรมเพื่อสร้างความร่วมมือในการป้องกันการเสียชีวิตจากไข้เลือดออก
นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกสูงที่สุด จึงได้ออกนโยบายและดำเนินงานเชิงรุก เน้นการป้องกันและเฝ้าระวังก่อนเกิดโรค โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และศาสนสถาน พร้อมร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนสร้างการรับรู้ถึงอันตรายของไข้เลือดออกแก่ประชาชน เพื่อทำให้กรุงเทพฯ ปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลจากไข้เลือดออก
นายยูจิ ชิมิซึ ประธานกรรมการ บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คาโอสนับสนุนเนคเทค สวทช. และกรมควบคุมโรค พัฒนาแอปพลิเคชัน “รู้ทัน” แจ้งเตือนภัยสุขภาพรอบตัว ตั้งแต่ปี 2564 และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีแบบพยากรณ์ คาดการณ์โอกาสการเกิดโรคและการแพร่ระบาด เพื่อหาวิธีป้องกันให้ประชาชนปลอดภัยจากโรค พร้อมสานต่อโครงการ “GUARD OUR FUTURE” ให้ความรู้และวิธีการป้องกันที่ถูกต้องแก่เด็กนักเรียนและผู้ปกครอง ตั้งเป้าจัดกิจกรรมกว่า 160 โรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตลอดจนร่วมมือกับวง Paper Planes แต่งเพลงพร้อมมิวสิควิดีโอให้ความรู้และเตือนถึงอันตรายของไข้เลือดออก
นายปีเตอร์ สไตรเบิล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทาเคดาเห็นความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันโรคไข้เลือดออกผ่านนวัตกรรม เน้นการป้องกันในโรงเรียนและชุมชน ด้วยการสื่อสารสร้างการรับรู้ในรูปแบบใหม่ๆ อาทิ แคมเปญสร้างความตระหนักรู้ผ่าน อิงมา หรือ Dengue Virtual Human และwww.knowdengueth.com เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลของโรคไข้เลือดออกได้อย่างทันท่วงที