นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การซื้อสินค้าของประชาชนที่ตลาดถนอมมิตร กรุงเทพฯ และตลาดฐานเพชรนนท์ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้กรมการค้าภายในจัดชุดลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ เพื่อดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ร้านค้าในทั้งสองตลาดมีการปิดป้ายราคาสินค้าไว้ชัดเจน ในส่วนของราคาสินค้าในตลาดสอดคล้องกับภาวะตลาดปัจจุบัน ใกล้เคียงตลาดอื่นที่ไปตรวจมาหลายๆ แห่ง ถือว่าราคายังคงที่อยู่ ยกเว้นผักสดที่มีการปรับราคาขึ้นลงในบางวัน เช่น หมูเนื้อแดง ราคา กก. ละ 140-155 บาท น่องไก่สติดสะโพก ราคา กก. ละ 70-75 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 3.8 บาท/ฟอง ส่วนราคาผักสดที่ปรับลดลงจากเดือนก่อน ได้แก่ ผักคะน้า ราคา กก.ละ 30 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 20-25 บาท ผักกาดขาวปลี กก.ละ 20-25 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 30 บาท เป็นต้น
“ในช่วงนี้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ด้วยความอุ่นใจ เพราะกรมการค้าภายในได้เพิ่มการจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าและการปิดป้ายแสดงราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการเอาเปรียบของผู้บริโภค ถ้าพบมีการเอาเปรียบ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะลงไปตักเตือน จึงขอความร่วมมือกับผู้บริหารตลาด เจ้าของตลาด และผู้ประกอบการในตลาด ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายในในการจำหน่ายสินค้าในราคาสมเหตุสมผลและปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน” นายอุดมกล่าว
นอกจากนี้ กรมฯ ก็จะดูแลทั้งร้านค้า สินค้า คุณภาพสินค้า และปริมาณสินค้า ว่ามีการบรรจุให้ถูกต้องครบถ้วนตามจำนวนที่จำหน่าย ในส่วนของเครื่องชั่งก็จะมีเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดลงไปตรวจสอบความถูกต้องเที่ยงตรง นอกจากนั้นการดูแลสินค้าในช่วงเทศการณ์สงกรานต์นี้ ทางกรมฯ ได้ขอให้พาณิชย์จังหวัดเข้าไปดูแลเรื่องราคาและปริมาณสินค้าที่จำเป็นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะช่วงที่มีประชาชนเดินทางจำนวนมาก เพื่อไม่ให้มีการขาดแคลนสินค้าและฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาล ในส่วนของร้านอาหาร ร้านของฝาก และตลาดสดทั่วประเทศ ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นการเอารัดเอาเปรียบ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากถึงผู้ประกอบการว่าขออย่าเอารับเอาเปรียบผู้บริโภค โดยกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนกรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ