คปภ. ลงพื้นที่ทันทีให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยกรณีรถยนต์ 4 ประตู ที่จังหวัดบุรีรัมย์

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถยนต์ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กท 1375 ขอนแก่น เฉี่ยวชนรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บว 6071 บุรีรัมย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดบนถนนหมายเลข 24 มุ่งหน้าไปทางอำเภอนางรอง ระหว่างกิโลเมตรที่ 131-132 หมู่ที่ 4 ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 นั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัย พร้อมทั้งติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้ลงพื้นที่ทันที โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถยนต์ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กท 1375 ขอนแก่น พบข้อมูลการทำประกันภัยภาคบังคับกับบริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 6 ธันวาคม 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 6 ธันวาคม 2566 คุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน โดยเบื้องต้นไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยภาคสมัครใจแต่อย่างใด

ด้านรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บว 6071 บุรีรัมย์ พบข้อมูลการทำประกันภัยภาคบังคับกับบริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 17 กันยายน 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 17 กันยายน 2566 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน โดยเบื้องต้นไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยภาคสมัครใจแต่อย่างใด

ทั้งนี้การติดตามค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ในเบื้องต้นทายาทโดยธรรมของผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บว 6071 บุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพ จำนวน 35,000 บาท และผู้โดยสารรถยนต์กระบะที่เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยจะได้รับเงินเอาประกันภัยรายละจำนวน 500,000 บาท จากประกันภัยภาคบังคับ โดยสำนักงาน คปภ. จังหวัดบุรีรัมย์ จะอำนวยความสะดวกและติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อให้บริษัทจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม สิทธินอกเหนือจากนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสาร และผลของคดีการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงาน คปภ. จังหวัดบุรีรีรัมย์ จะเร่งติดตามผลคดี และติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยโดยเร็วที่สุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 ราย สำนักงาน คปภ. จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประสานไปยังโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ เพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลจากกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกก็จะช่วยประสานงานให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้

“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และพร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน เพื่อความอุ่นใจ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถภาคสมัครใจ และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านประกันภัย ติดต่อสายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย