กรมชลประทาน เร่งดำเนินการแก้ไขชาวนาดอนเจดีย์ร้องขอให้ระบายน้ำ เนื่องจากน้ำไม่เพียงพอต่อการทำนา หวั่นข้าวยืนต้นตาย หลังฝนทิ้งช่วง
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า กรมชลประทานได้วานแนวทางและมาตรการช่วยเหลือพื้นที่ดังกล่าว โดยในเบื้องต้นให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าโบสถ์ ให้ชะลอการรับน้ำเข้าพื้นที่เป็นเวลา 2 วัน รวมทั้งประสานโครงการชลประทานชัยนาท กำชับให้พื้นที่ทุ่งวัดสิงห์ ช่วง กม. 0-20 ที่มีพื้นที่ติดกับคลองมะขามเฒ่า – อู่ทอง พิจารณารับน้ำเข้าพื้นที่ตามความจำเป็น
สำหรับมาตรการในการช่วยเหลือ สำนักชลประทานที่ 12 จะดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 4 เครื่อง เพื่อสูบน้ำจากลำน้ำธรรมชาติ อาทิ ลำห้วยกระเสียว และลำห้วยโตนด มาเติมให้กับคลองมะขามเฒ่า – อู่ทอง ในช่วงกม. 47 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าโบสถ์ พร้อมกันนี้ ได้ให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดอนเจดีย์เป็นผู้ประสานคณะกรรมการ JMC ของโครงการฯ และฝ่ายความมั่นคง ติดตามการใช้น้ำในพื้นที่ให้เป็นไปตามรอบเวรที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด จากการดำเนินการข้างต้น คาดว่าจะทำให้มีน้ำไหลลงคลองมะขามเฒ่า – อู่ทอง และกระจายเข้าพื้นที่ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดอนเจดีย์ อย่างน้อยประมาณ 2 เท่า จากเดิมมีน้ำเพียง 4 ลบ.ม. เพิ่มเป็น 8 ลบ.ม.
ในส่วนของปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ในเกณฑ์น้อย นั้น ได้มีการเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล จากเดิมระบายวันละประมาณ 23 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. ระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2562 ซึ่งจะส่งผลให้ระดับเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทยอยยกตัวสูงขึ้น ในอีก 5 วันข้างหน้า ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่คลองมะขามเฒ่า – อู่ทองได้มากขึ้น ช่วยคลี่คลายปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับชาวนาในพื้นที่ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดอนเจดีย์ที่อยู่ด้านท้ายของคลองมะขามเฒ่า–อู่ทอง อย่างไรก็ตาม ขอให้เกษตรกรร่วมมือกันใช้น้ำให้เป็นไปตามแผนหรือรอบเวรที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่กระจายเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอยืนยันว่าจะบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์ และเป็นธรรมกับทุกพื้นที่ให้มากที่สุด
กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์