นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายลักลอบทำงานเสียชีวิตในเล้าหมูที่เกาหลีใต้ ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบประสานความช่วยเหลือ ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ผมได้สั่งการให้ทูตแรงงานที่เกาหลีใต้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจากรายงานของ นายนิธิพัฒน์ วัฒนสุวกุล อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ที่ได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ทราบว่า แรงงานที่เสียชีวิตรายนี้ ชื่อ นายบุญชู ประวะเสนัง อายุ 67 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนขอนแก่น ไม่ได้แจ้งการเดินทางผ่านกรมการจัดหางานและไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เสียชีวิตใกล้เคียงสถานที่ทำงานในฟาร์มหมู เขตเมืองโพชอน ของเกาหลีใต้ โดยพบศพบริเวณร่องน้ำระหว่างเขากับสวนด้านหลัง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตและอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรพลิกศพอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามเบื้องต้น สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตอาจเสียชีวิตเพราะปัญหาสุขภาพหรือเพราะสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขอนามัยหรือเพราะอากาศ แต่เนื่องจากนายจ้าง ชื่อนายคิม เป็นผู้จ้างงานนายบุญชูฯ แบบผิดกฎหมาย เมื่อพบว่าเสียชีวิตจึงไม่กล้าแจ้งความ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายจ้าง พร้อมตั้งข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ และกำลังสอบสวนลูกชายของนายจ้างว่ามีส่วนร่วมหรือไม่ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต้องรอผลชันสูตรศพประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ การเสียชีวิตของนายบุญชูฯ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ประสานงานในเรื่องคดีกับทางการสาธารณรัฐเกาหลีแล้ว และฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีอยู่ระหว่างประสานสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เพื่อตรวจสอบติดตามสิทธิประโยชน์ที่พึงมีของนายบุญชูฯ อาทิ ค่าจ้างค้างจ่าย เป็นต้น
ด้าน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทย ผมได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตนำทีมหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ร่วมกับทางจังหวัดขอนแก่นไปเยี่ยมบ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ครอบครัว ซึ่งได้ไปพบกับ น.ส.มะลิ ภรรยาของผู้เสียชีวิตเป็นอาสาสมัครแรงงานตำบลทางขวาง อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น จากการพูดคุย ทราบว่า น.ส.มะลิ มีบุตรชาย 1 คน อายุ 34 ปี ขณะนี้บุตรชายเรียนจบและทำงานที่บริษัท อิตาเลียนไทย ที่จังหวัดสระบุรี และ น.ส.มะลิจะเดินทางพร้อมบุตรชายไปจัดการศพนายบุญชูที่เกาหลีด้วยตัวเองโดยจะเดินทางไปในวันศุกร์ที่ 10 มีนาคมนี้ โดย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มอบเงินจำนวน 10,000 บาท ให้แก่ภรรยาของผู้เสียชีวิตด้วย ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดขอนแก่น ยังได้แจ้งสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 มีเงินบำเหน็จชราภาพอยู่ประมาณ 1,700 บาท เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ทายาทตามกฎหมายต่อไป
“ขอย้ำเตือนให้แรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ ขอให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมายจะไม่ได้รับการดูแลตามสิทธิที่พึงมี หากเจ็บป่วยในต่างประเทศค่าใช้จ่ายจะสูงมาก และยังมีโอกาสถูกนายจ้างเอาเปรียบได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี ได้แก่ กรมการจัดหางานจัดส่ง บริษัทจัดหางานจัดส่ง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ และคนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง
จึงขอแจ้งเตือนไปยังคนหางานที่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศไปทำงานด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและสมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการจัดหางาน หรือ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน นายบุญชอบ กล่าวท้ายสุด