“จุรินทร์” จัด 4 กิจกรรมขายผลไม้ปีนี้ล่วงหน้าก่อนฤดู โกอินเตอร์ไป 17 ประเทศ สร้างเงินให้ไทย โกยเงินอีก 2,300 ล้านบาท

วันที่ 8 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการจับคู่ธุรกิจผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่นๆ พร้อมด้วยนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายวิศิษฏ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายหวู หลิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) (Bank of China) ที่ห้องวิภาวดี บอลรูม A โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว

โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออก ผลไม้สดและแปรรูปของไทยดีขึ้นเป็นลำดับในปี 2565 ส่งออกผัก ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป รวมกันถึง 4.5 ล้านตัน มูลค่า 8.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (290,000 ล้านบาท)ที่สร้างเงินให้ประเทศ และเดือน ม.ค. – ก.พ. 2566 เราส่งออกผักผลไม้สดและแปรรูปไปแล้ว 2.82 แสนตัน สร้างเงินให้ประเทศ 13,637 ล้านบาท เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ที่ตนมอบให้กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และยุทธศาสตร์การตลาด “เชิงรุกและเชิงลึก” ที่มอบหมายให้ทั้งการรักษาตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่ ช่วง 3-4 ปีที่ตนมารับผิดชอบดูแล สามารถรักษาตลาดผลไม้เดิมและเพิ่มตลาดใหม่ได้อย่างมีศักยภาพในหลายประเทศ เช่น จีน สหรัฐฯญี่ปุ่นและอีกหลายตลาด ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ประมาณ 1,040,000 ครัวเรือน ยกระดับราคาผลไม้ช่วง 4 ปีดีทุกปีในภาพรวม เฉลี่ยราคาผลไม้ยุคนี้ดีที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพราะเราสามารถทำตลาดส่งออกล่วงหน้าได้เยอะมาก ช่วยให้มีช่องทางระบาย สร้างอนาคตในปีนี้ให้กับราคาผลไม้ช่วยเกษตรกรสร้างเงินให้ประเทศมหาศาลตกไปหาเกษตรกรต่อไป

“วันนี้มี 4 สร้างกิจกรรมหลัก สร้างเงินให้ประเทศทันทีวันนี้ 2,300 ล้านบาท กิจกรรมที่หนึ่ง ลงนาม MOU ซื้อขายล่วงหน้า 6 คู่ จีน ญี่ปุ่นและฮ่องกงมูลค่า 1,600 ล้านบาท กิจกรรมที่สอง จับคู่เจรจาธุรกิจคาดว่ายอดไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท มีผู้ส่งออกมาในงาน 84 บริษัทและผู้นำเข้า 57 บริษัท จาก 17 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง สาธารณรัฐเช็ก อินเดีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สวีเดน ไต้หวัน ดูไบ เวียดนาม สหราชอาณาจักรอังกฤษ บังคลาเทศ คาดว่าสามารถเซ็นสัญญาได้ไม่น้อยกว่า 385 คู่ กิจกรรมที่สาม การลงนามระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ กับ Bank of China จะช่วยอำนวยความสะดวกผู้นำเข้าจีนหรือผู้ส่งออกไทย ในการชำระเงินทั้งลูกค้าไทยและจีนมากขึ้นด้วยเงื่อนไขผ่อนปรน กิจกรรมที่สี่ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดตัวแบรนด์ไทยให้กับผลไม้และผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปของไทยในตลาดโลกต่อไปโดยการทำสื่อโฆษณาหลากหลายรูปแบบ และจะยังมีอีก 34 กิจกรรมที่เตรียมไว้ทั่วโลก สำหรับการประชาสัมพันธ์โฆษณาผลไม้ไทยและทำให้ส่งออกนำเงินสร้างเงินให้ประเทศไทยต่อไปผ่านผลิตภัณฑ์ผลไม้ไทยอีกหลายประเทศทั่วโลก” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า โครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่น ๆ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยปีนี้เป็นครั้งแรกที่กลับมาจัดกิจกรรมแบบสถานที่จริง (On-Site) หลังจัดในรูปแบบออนไลน์มาถึง 2 ปี ในช่วงการระบาดของโควิด ได้บูรณาการความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร รวมถึงพาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ในต่างประเทศร่วมเป็นทัพหน้าในการทำการตลาดเชิงรุก เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกร ผู้ค้า ผู้ส่งออกไทย ได้ระบายสินค้าผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตร เพิ่มโอกาสทางการค้า พร้อมสร้างชื่อเสียงให้สินค้าผลไม้ไทย และแสดงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์