วันที่ 22 มิถุนายน 2562 สสว. จับมือ ส.อ.ท. และหน่วยงานเกี่ยวเกี่ยวข้อง จัดงานสัมมนาธุรกิจกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ “จากสนามกีฬา สู่เวทีการค้าโลก” ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2562 พร้อมผลักดันสินค้าและบริการด้านกีฬาของไทยสู่เวทีการค้าโลก ตั้งเป้ายกระดับพัฒนาเครือข่าย SPORT ECONOMY ทั้งระบบ
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาธุรกิจกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ “จากสนามกีฬา สู่เวทีการค้าโลก” ณ สเตเดียมวัน สปอร์ต คอมมูนิตี้ (Stadium One) ว่า ปัจจุบันกีฬาประเภทต่าง ๆ ได้รับความสนใจจากผู้รักสุขภาพและบุคลทั่วไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจกีฬาเติบโตอย่างรวดเร็ว ณ ปัจจุบัน มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท และในแต่ละปีมียอดเติบโตอย่างน้อย 5% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจุบันคนไทยมีผู้เล่นกีฬาเพื่อการออกกำลังกายมากถึง 16 ล้านคน ทำให้กระแสการออกกำลังกายในขณะนี้กำลังมาแรงและได้รับความสนใจในวงกว้าง เนื่องจากคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาออกกำลังกาย เล่นกีฬา ดูแลรักษาสุขภาพและอาหารกันมากขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2562 คนไทยจะหันมาออกกำลังกายมากขึ้นถึง 25 ล้านคน จากกระแสวิ่งมาราธอนและปั่นจักรยานที่กำลังมาแรง
ผอ.สสว. กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกีฬาตลอดทั้งซัพพลายเชนกว่า 10,000 ราย ไม่ว่าจะเป็น Sport Wear & Accessories Sport Equipment เครือข่ายสนับสนุนกีฬา เครือข่ายสื่อและผู้จัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งทั้งหมดนี้ มีโอกาสที่จะเติบโตทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศมากขึ้น จึงเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ สสว. ให้ความสำคัญและตั้งใจที่จะพัฒนาและส่งเสริมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มีการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพตามแนวทางของการพัฒนาคลัสเตอร์ โดยเน้นการวางรากฐานการทำธุรกิจให้เข้มแข็ง และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเพื่อให้เกิดความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
“สสว.คาดหวังว่าสินค้ากีฬาของไทยจะเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งเราทุกคนต้องช่วยกันเพื่อการเติบโตอย่างอย่างยั่งยืนของธุรกิจกีฬาไทยต่อไป” นายสุวรรณชัย กล่าว
ด้านนายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ ประธานโครงการพัฒนาเครือข่าย SPORT ECONOMY และกรรมการสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) สภาอุตสาหกรรมแห่ง-ประเทศไทย กล่าวว่า กิจกรรมสัมมนา “จากสนามกีฬา สู่เวทีการค้าโลก” ที่จัดขึ้นในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเครือข่าย SPORT ECONOMY ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SMEs ปี 2562 ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สสว. โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาความรู้ด้านบริหารธุรกิจในด้านต่างๆ แก่สมาชิกเครือข่ายการรับฟังแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเครือข่ายเพื่อสามารถนำไปเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านกีฬาของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
นายยุทธนาเผยอีกว่า สำหรับกิจกรรมวันนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การบรรยายให้ความรู้ด้านธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ และประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านกีฬาของผู้ประกอบการเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงการเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเอง โดยมีผู้ประกอบการนำสินค้าแบรนด์ไทยเข้าร่วมประมาณ 20 แบรนด์ ทั้งนี้หลังจากกิจกรรมในวันนี้ ทางโครงการยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่จะพัฒนาศัพยภาพและเพิ่มความเข้มแข็งให้กับ SMEs ในธุรกิจกีฬา ได้แก่ การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำสื่อออนไลน์ การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำ Content Marketing และ Payment Gateway การส่งเสริมช่องทางการตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นไปที่ตลาดญี่ปุ่น เพื่อรองรับงานโอลิมปิก 2020 ที่กำลังจะเกิดขึ้น
“นอกจากการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมเครือข่าย SPORT ECONOMY โดยความร่วมมือกับ สสว. แล้ว สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญและศักยภาพของธุรกิจกีฬาที่หากได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อประเทศอย่างมหาศาล จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน SPORT ECOSYSTEM ขึ้น เพื่อผลักดันนโยบายในการส่งเสริมธุรกิจกีฬาให้เป็นวาระระดับประเทศต่อไป” นายยุทธนากล่าว