วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. สำนักพัฒนาทุนและองค์กรการเงินชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่ติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ตามโครงการ 1 พัฒนากร 1 กลุ่มออมทรัพย์ ณ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านม่วงหมู่ หมู่ที่ 4 ตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีนางสาวสาวิตรี อุดมพันธ์ นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ รักษาราชการแทน พัฒนาการอำเภอเมืองสิงห์บุรี พร้อมด้วย สิบเอกอัศวิน เนียมคำ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ นางสาวรัตนาวดี จันทร์น้อย นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ นายณัฐพล เที่ยงธรรม นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอเมืองสิงห์บุรี ร่วมให้การต้อนรับ
โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักพัฒนาทุนและองค์กรการเงินชุมชนได้ให้คำแนะนำการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ตามแนวทางและระเบียบกรมการพัฒนาชุมชน โดยยึดหลักคุณธรรม 5 ประการ 1. ความซื่อสัตย์ 2. ความเสียสละ 3. ความรับผิดชอบ 4. ความเห็นอกเห็นใจกัน และ 5. ความไว้วางใจกัน ให้มีการบริหารงานในรูปแบบคณะกรรมการ เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้ประชาชนรู้จักการพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้จักประหยัด อดออม และนำเงินออมสะสมรวมกันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เกิดเป็นกองทุนภายในชุมชนขึ้น ซึ่งสมาชิกสามารถใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการสนับสนุนการประกอบอาชีพภายในหมู่บ้าน/ตำบลของตนเองได้
นายมานะ นารถโสภา ประธานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านม่วงหมู่ และกรรมการฯ ได้ร่วมนำเสนอและชี้แจงถึงการดำเนินงานบริหารจัดการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านม่วงหมู่ โดยกล่าวว่า “กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านม่วงหมู่ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 ร่วมระยะเวลา 6 เดือนเศษ สมาชิกแรกเริ่มจำนวน 15 คน ปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นรวม 19 คน เงินสัจจะสะสม จำนวน 10,000 บาท” สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญของการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ฯ บ้านม่วงหมู่ คือการที่มีพี่เลี้ยงคือพัฒนากร ลงมาให้คำแนะนำ สร้างความเข้าใจในการจัดตั้งกลุ่ม ผู้นำสามารถสร้างความเข้าได้ถูกต้อง และเกิดความไว้วางใจของชาวบ้าน จึงทำให้สามารถจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ฯ นี้ได้
นายมานะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในอนาคตจะพัฒนาและบริหารจัดการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านม่วงหมู่สามารถเติบโตเป็นกลุ่มฯ ที่มั่นคงได้อย่างแน่นอน เนื่องจากกลุ่มมีการประชุมและประชาสัมพันธ์เชิญชวนอยู่สม่ำเสมอ เข้ามาสอบถามและขอสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มฯ จนทำให้ปัจจุบันกลุ่มฯมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านเริ่มตระหนักและเห็นพ้องต้องกันว่ากลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตสามารถจัดสวัสดิการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนได้ อีกทั้งยังทำให้คนในชุมชนรู้รักการออม ”
ทั้งนี้ ทางกรมการพัฒนาชุมชนมีนโยบาย “1 พัฒนากร 1 กลุ่มออมทรัพย์ ” กรมการพัฒนาชุมชนมีพัฒนากรอยู่ประมาณ 6,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำให้กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเพิ่มขึ้น จำนวน 6,000 กลุ่ม มีสมาชิกอย่างน้อยกลุ่มละ 30 คน รวมทั้งประเทศจะมีสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 180,000 คน ซึ่งจะสามารถสร้างสังคมแห่งการออมให้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ชีวิตของประชาชนชาวไทยได้มีสวัสดิการและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้นได้
ภาพ/ข่าว : สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองสิงห์บุรี @พช.สิงห์บุรี
ติดตามผ่าน facebook ได้ที่
https://www.facebook.com/profile.php?id=100088412962172&mibextid=LQQJ4d
Change for Good
“เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
#กรมการพัฒนาชุมชน
#จังหวัดสิงห์บุรี #อำเภอเมืองสิงห์บุรี