วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติและกล่าวปาฐกถาในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 44/2565 สหภาพแรงงานเด็นโซ่ ประเทศไทย โดยมี นายกิตติศักดิ์ อธิสกุลทรัพย์ ประธานสหภาพแรงงาน เด็นโซ่ ประเทศไทย พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดชลบุรี และผู้นำแรงงาน ให้การต้อนรับ ณ อาคารศาลาประชาคม เทศบาลเมืองบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสําคัญกับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องผู้ใช้แรงงานเพราะทุกท่านมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ ช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด – 19 ทุกท่านถือเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนและผนึกกำลังกันเพื่อก้าวข้ามจนมาถึงวันนี้ ซึ่งในห้วงดังกล่าว รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือนายจ้างและพี่น้องแรงงานในหลายๆ ด้าน เช่น ในปี 2564 เปิดจุดตรวจโควิดแบบประจำจุดและตรวจเชิงรุกในโรงงาน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกจ้างเพื่อให้ภาคเอกชนยังคงดำเนินธุรกิจต่อไป ผลตรวจโควิด 409,972 คน แรงงานไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จึงขอรับการสนับสนุนวัคซีนให้แก่ผู้ใช้แรงงานกว่า 11 ล้านคน และได้ฉีดวัคซีนให้แรงงานแล้ว 3,962,206 โดส โรงงานปิดตัวลงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงงาน กระทรวงแรงงานจัดโครงการแฟคทอรี่ แซนบ๊อก บนฐานแนวคิดเศรษฐศาสตร์และสาธารณสุข มุ่งเป้าภาคการผลิตส่งออกสำคัญ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหาร ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในพื้นที่ 12 จังหวัด 730 โรงงาน แรงงานเข้าร่วม 407,770 คน ตรวจ RT- PCR พบผู้ติดเชื้อ 11,298 คน โดยทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการรักษา และได้ฉีดวัคซีนให้ทุกคน ผลสัมฤทธิ์จากโครงการทำให้โรงงานไม่มีการปิดตัวลง ภาคการผลิตส่งออกสูงสุดในรอบ 30 ปี จัดหาโรงพยาบาล Hospitel ในเครือข่ายประกันสังคม รองรับผู้ป่วย 61,046 คน ลดเงินสมทบให้นายจ้างและผู้ประกันตนรวมกว่า 6 ครั้ง เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 146,448 ล้านบาท โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 29 จังหวัด นายจ้าง จำนวน 192,951 ราย ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 3.75 ล้านราย รวมเป็นเงิน 32,542.27 ล้านบาท โครงการเยียวยาผู้ประกันตน ม.39 และ ม. 40 ม.39 จำนวน 1.37 ล้านราย ม. 40 จำนวน 7.21 ล้านราย รวมเป็นเงิน 71,214.63 ล้านบาท โครงการเยียวยาผู้ประกันตนในกิจการสถานบันเทิงฯ ม.33 ม.39 และ ม.40 จำนวน 147,720 ราย รวมเป็นเงิน 738.60 ล้านบาท การให้ความช่วยเหลือ SMEs เพื่อรักษาการจ้างงานให้ยังคงอยู่ โดยรัฐบาลอุดหนุนจำนวน 235,933 แห่ง ส่งเสริมการจ้างงานใหม่ของนายจ้าง 66,201 แห่ง ลูกจ้างได้รับการจ้างงาน มากกว่า 3.2 ล้านคน รวมเงินอุดหนุน มากกว่า 27 ล้านบาท ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคสูงขึ้น ให้พี่น้องแรงงานสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งได้ประกาศใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยการอนุญาตให้ทำงานกว่า 174,179 คน
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงภารกิจที่กระทรวงแรงงานจะดำเนินการในอนาคตว่าผมยังได้วางรากฐานเพื่อความมั่นคงให้แก่พี่น้องแรงงานในอนาคต ดังนี้ เร่งผลักดันแก้ไขกฎหมายประกันสังคม 3 ขอ ขอเลือก ขอคืน ขอกู้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างกฎหมายแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจพิจารณาในวาระ 2 ผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. … อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 9) ซึ่งจะมีกองทุนเพื่อแรงงานนอกระบบ ใช้เพื่อเป็นแหล่งเงินกู้มีทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ จัดตั้งธนาคารเพื่อผู้ประกันตน สถาบันทางการแพทย์สร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประกันตนในราคาถูก เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคงให้กับผู้ประกันตนอีกด้วย
“ผมขอขอบคุณบริษัทเด็นโซ่ ประเทศไทย จำกัด ที่ให้การสนับสนุนเยาวชนในการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 46 ที่ผ่านมา ทั้งงบประมาณ สถานที่ บุคลากรผู้ฝึกสอน รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ในการเก็บตัวฝึกซ้อม ของผู้เข้าแข่งขัน จนทำให้สามารถคว้าเหรียญเงินในสาขาเครื่องจักรกล CNC (เครื่องกลึง) และได้รับเหรียญช่างฝีมือยอดเยี่ยม สาขา CNC (เครื่องกัด) มาได้ ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และขอขอบคุณสหภาพแรงงานเด็นโซ่ ประเทศไทย ที่ได้รวมตัวกันจัดตั้งและร่วมกันบริหารจัดการองค์กร มากว่า 44 ปี แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความสามัคคีปรองดองของสมาชิก ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อนายจ้าง รวมถึงการประสานประโยชน์ให้เกิดการยอมรับเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สำคัญ บนพื้นฐานระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี ผมขอให้ทุกท่านร่วมมือร่วมใจกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศต่อไป” นายสุชาติ กล่าวตอนท้าย