จากกรณีชายคลั่งยา ทุบแม่เลือดอาบ ก่อนจุดไฟเผาบ้าน พร้อมบุกศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผวาหวั่นซ้ำรอย จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ล่าสุด กรมคุมประพฤติ โดยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย พร้อมให้กำลังใจและให้คำแนะนำตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 นายวีระกิตต์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ได้กล่าวเปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า กรมคุมประพฤติให้ความสนใจอย่างยิ่ง ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเร่งรัดติดตามให้การสงเคราะห์ผู้เสียหาย แม้ผู้กระทำผิดรายดังกล่าวจะไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ แต่ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งเน้นการแก้ไขฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้กระทำผิดในชุมชน เพื่อคืนคนดีสู่สังคม จึงตระหนักถึงปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้สารเสพติดมาโดยตลอด ที่ผ่านมากรมคุมประพฤติ ได้พัฒนาวิธีการและคิดค้นนวัตกรรมในการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดเหล่านี้ ด้วยกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้หลักการทางด้านจิตวิทยา พัฒนาความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ตลอดจนบูรณการครอบครัว ชุมชน รวมถึงอาสาสมัครคุมประพฤติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันสอดส่องและดูแลให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นเลิกยาเสพติด พร้อมปรับพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น มีความรับผิดชอบ และอาศัยอยู่ในชุมชนได้อย่างปกติสุข
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กรมคุมประพฤติ ยังเตรียมใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM มาสนับสนุนในการติดตามพฤติกรรมของผู้กระทำผิดในคดียาเสพติด และผู้มีอาการทางจิตเวชจากการใช้สารเสพติดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่ออาชญากรรมในลักษณะรุนแรง ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นควรให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาแนวทางการใช้อุปกรณ์ EM ในกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ กรมคุมประพฤติ จะเสนอติดอุปกรณ์ EM กับผู้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าว ทั้งก่อนมีคำพิพากษาและหลังมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก เพื่อประสิทธิภาพในการปรับพฤตินิสัยหรือป้องกันอาชญากรรม และสังคมมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับ พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 ที่จะมีผลบังคับใช้ มกราคม 2566 ที่จะถึงนี้ด้วย