ประเทศไทยตอนบน ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส (91 มม.) จ.ยะลา (85 มม.) และ จ.ปัตตานี (79 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 44,125 ล้าน ลบ.ม. (76%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 36,372 ล้าน ลบ.ม. (76%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 พ.ย. 65 ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,654 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราประมาณ 1,484 ลบ.ม./วินาที โดยมีแนวโน้มลดลง
สถานการณ์น้ำ จ.อุบลราชธานี 4 พ.ย. 65 สถานีวัดน้ำ M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 3,556 ลบ.ม./วินาที โดยมีแนวโน้มลดลง และคาดว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูลจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงกลางเดือน พ.ย. 65
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำท่าจีน พบว่าไม่มีฝนตกหนักแต่แม่น้ำท่าจีนยังมีปริมาณน้ำมากและล้นตลิ่งบางแห่ง ประกอบกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ได้คาดการณ์ระดับน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน บริเวณปากน้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียง จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ ในวันที่ 11, 26 พ.ย. 65 และในช่วงวันที่ 9 – 10, 15 – 26 ธ.ค. 65 ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้แม่น้ำท่าจีน บริเวณตั้งแต่ อ.สามชุก ศรีประจันต์ เมืองสุพรรณบุรี บางปลาม้า และสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี อ.บางเลน นครชัยศรี และสามพราน จ.นครปฐม อ.กระทุ่มแบน และเมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 0.15- 0.30 เมตร ทั้งนี้ กอนช. ขอให้หน่วยงานตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ ปรับแผนบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ รวมทั้งใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและรองรับน้ำหลาก เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่