‘สินิตย์’ เตรียมเยือนกัมพูชา ร่วมวงประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผลักดันร่างวิสัยทัศน์ฯ ภายหลังปี 2568 และการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งที่ 21 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา 10 พ.ย.นี้
ร่วมสรุปผลการดำเนินงาน ทั้งการอัปเกรด ATIGA การฟื้นฟูเการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ผลการประเมินความพร้อมของติมอร์-เลสเต เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน ก่อนชงสุดยอดผู้นำอาเซียน พร้อมถกรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน-ขนส่ง-เกษตรและป่าไม้ ผลักดันแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน และความเป็นกลางทางคาร์บอน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 21 ระดับรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งกัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อสรุปผลการดำเนินงานก่อนเสนอที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 รวมทั้งจะประชุมร่วมกับรัฐมนตรีอาเซียน 3 สาขา ได้แก่ ด้านพลังงาน ด้านการขนส่ง และด้านเกษตรและป่าไม้
“สำหรับไฮไลท์ของการประชุมมี 2 เรื่องสำคัญ คือ การพิจารณาจัดทำองค์ประกอบหลักของร่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ภายหลังปี 2568 (Post-2025 Vision) ในส่วนของเสาเศรษฐกิจ เพื่อรวมเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ฉบับใหม่ ซึ่งจะเสนอให้ผู้นำอาเซียนรับรองในปี 2568 และ เตรียมการเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนของอาเซียน โดยจะมีการหารือร่วมกับรัฐมนตรีอาเซียน 3 สาขา ได้แก่ ด้านพลังงาน ด้านการขนส่ง และด้านเกษตรและป่าไม้ เพื่อหาแนวทางผลักดันอาเซียนให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)” นายสินิตย์กล่าว
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมจะมีการติดตามความสำเร็จของประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ (Priority Economic Deliverables: PEDs) ที่กัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนผลักดันให้สำเร็จในปีนี้ โดยเฉพาะประเด็นการเริ่มเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) พร้อมหารือแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 โดยจะให้ความเห็นชอบปฏิญญาพนมเปญว่าด้วยการพลิกโฉมการท่องเที่ยวอาเซียน ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของประเทศสมาชิกต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 รวมทั้งรับทราบผลการประเมินเชิงลึกถึงความพร้อมของติมอร์-เลสเต ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของอาเซียน เพื่อสรุปผลการดำเนินงานเสนอต่อผู้นำอาเซียนต่อไป
นอกจากนี้ จะมีการรับรองเอกสารสำคัญ อาทิ แผนดำเนินงานตามกรอบการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน ปี ค.ศ. 2023-2030 ซึ่งเป็นแนวทางที่อาเซียนสามารถนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และเอกสารแนวคิดเรื่องยุทธศาสตร์อาเซียน เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ เช่น อาเซียนจะเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนด้านการปล่อยคาร์บอนต่ำ และช่วยส่งเสริมนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่มูลค่า เป็นต้น
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย. 2565) การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 96,850.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 20 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไปอาเซียนมูลค่า 55,997.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากอาเซียนมูลค่า 40,853.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์