กรมทางหลวงชนบท ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตั้งสะพานเบลีย์และซ่อมแซมถนนในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทันทีหลังน้ำลด

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือขณะนี้มีหลายพื้นที่ที่มีระดับน้ำลดลงจนกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5 (นครราชสีมา) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในสังกัด ประกอบด้วย แขวงทางหลวงชนบทชัยภูมิ แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา แขวงทางหลวงชนบทบุรีรัมย์ และแขวงทางหลวงชนบทสุรินทร์ จึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องจักร วัสดุ อุปกรณ์ รวมทั้งสะพานเบลีย์ เข้าดำเนินการฟื้นฟเส้นทางให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้โดยเร็ว จำนวน 35 สายทาง ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อาทิ

การติดตั้งสะพานเบลีย์ ความยาว 36 เมตร สาย สร.019 สะพานชุมพลบุรี – สตึก อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งบริเวณคอสะพานถูกน้ำกัดเซาะทำให้บริเวณดังกล่าวไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งสะพานเบลีย์เสร็จสมบูรณ์เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรผ่านได้ชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นด้วยการใช้วัสดุปะซ่อมบริเวณถนนสายดังกล่าวในจุดที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วนเป็นการชั่วคราว เช่น ถนนทางหลวงชนบทสาย ชย.3033 แยก ทล.225 – แยกทางหลวงชนบทสาย ชย.3019 อ.บ้านเขว้า, หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ช่วง กม.ที่ 11+ 900,  ถนนทางหลวงชนบทสาย บร.3049 แยก ทล.218 – บ้านหนองปล้อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ช่วง กม.ที่ 10+000 – 10+200, ถนนทางหลวงชนบทสาย บร.3061 แยก ทล.219 – บ้านโนนจำปา อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ช่วง กม.ที่  14+900 – 15+000 และถนนทางหลวงชนบทสาย นม.3041 แยก ทล.226 – บ้านตะแกรง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ช่วง กม.ที่ 12+050 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ทช.ยังคงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังถนนในโครงข่ายในความรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีถนนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบอีก จำนวน 7 สายทาง โดยจะรายงานสถานการณ์ให้ประชาชนได้รับทราบเป็นระยะ ๆ รวมถึงได้เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนทันที ซึ่งประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยหรือขอความช่วยเหลือได้ที่แขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัด หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146ประชาชนทันที ซึ่งประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยหรือขอความช่วยเหลือได้ที่แขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัด หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146