นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า แนวโน้มสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ ปริมาณน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานต่างๆ ระดมเครื่องสูบน้ำและกำลังคน เข้าไปช่วยเหลือประชาชนหลังน้ำลด ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อาทิ
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ ได้นำกำลังคน ช่วยเหลือประชาชนชุมชนวัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ ขนย้ายสิ่งของกลับเข้าที่อยู่อาศัยหลังน้ำลดลง
-โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ ดำเนินการปั้นคันดินป้องกันน้ำล้นข้ามถนนคันกั้นน้ำผักไห่-เจ้าเจ็ด ฝั่งขวา บริเวณ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ เพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะและรักษาถนนเส้นทางให้ประชาชนได้ใช้สัญจรอย่างสะดวก
จังหวัดสุโขทัย
-โครงการชลประทานสุโขทัย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณ บ้านหนองชุมแสง หมู่ 5 ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก เพื่อสูบน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน
จังหวัดราชบุรี
-โครงการชลประทานราชบุรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณ หมู่ 4 ต.จอมบึง และหมู่ 12 ต.รางบัว อ.จอมบึง เพื่อเร่งระบายน้ำช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม
จังหวัดกาญจนบุรี
-สำนักงานชลประทานที่ 13 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ในพื้นที่ ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี เร่งระบายน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน
ทั้งนี้ ในส่วนของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา บริเวณจุดอื่น ๆ กรมชลประทาน จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันวางแผนและระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปดำเนินการสูบระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด หากประชาชนหรือหน่วยงานต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460