นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ได้เปิดเผยถึงผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า จากการรายงานล่าสุดมีสายทางหลวงชนบทได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 23 จังหวัด จำนวน 120 สายทาง ปัจจุบันสามารถเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรได้แล้ว 47 สายทาง และยังไม่สามารถใช้สัญจรได้ 73 สายทาง ประกอบด้วย
– ภาคเหนือ 2 จังหวัด ไม่สามารถสัญจรได้ 2 สายทาง
– ภาคกลาง 9 จังหวัด ไม่สามารถสัญจรได้ 21 สายทาง
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 จังหวัด ไม่สามารถสัญจรได้ 49 สายทาง
– ภาคใต้ 1 จังหวัด ไม่สามารถสัญจรได้ 1 สายทาง
ปัจจุบัน กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้เตรียมแผนและเฝ้าระวังตามมาตรการที่ได้กำหนดเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ จัดเตรียมความพร้อมของเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ รถบริการรับ – ส่งประชาชน กำลังเจ้าหน้าที่ สะพานเบลีย์ เป็นต้น รวมถึงเตรียมพร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นเมื่อได้รับการร้องขอ อีกทั้งเตรียมแผนสำหรับสำรวจความเสียหายที่ได้รับจากมวลน้ำท่วมขังบนสายทางหลวงชนบท โดยหลังจากที่ระดับน้ำลดลง เจ้าหน้าที่จะเร่งสำรวจ ออกแบบ และประมาณการราคา เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูและซ่อมบำรุงให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติเพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อไป
นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัดอยู่ในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและมอบหมายให้ผู้บริหารตรวจเยี่ยมพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างใกล้ชิด
สำหรับประชาชนที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยขอให้เดินทางด้วยความระมัดระวัง โดยสังเกตป้ายเตือน ป้ายบอกทาง หรืออุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยที่ได้ติดตั้งไว้ หากต้องการข้อมูลหรือความช่วยเหลือสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่แขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัด หรือสายด่วน โทร 1146 ทั้งนี้ ทช. จะรายงานสถานการณ์อุทกภัยให้ประชาชนได้รับทราบจนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ด้วยความห่วงใย จากกรมทางหลวงชนบท