นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า รัฐบาล มีนโยบายการใช้ Soft Power ด้วยมิติทางวัฒนธรรม โดยให้ความสำคัญในศักยภาพของความเป็นไทยทั้งในด้าน อาหารไทย เทศกาลประเพณี ภาพยนตร์ การออกแบบและแฟชั่น และมวยไทย เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศทั้งในมิติสังคม เศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในเวทีโลก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาล โดย วธ. และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้มีการสนับสนุนเชิงนโยบาย มาตรการ และงบประมาณแก่ภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ การฟื้นฟูเยียวยาศิลปิน บุคลากร แรงงานในภาคศิลปวัฒนธรรม รวมถึงกลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิง และกลุ่มศิลปินที่มีอายุเกิน 65 ปี ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมทั้งยังมีมาตรการจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยที่กำหนดการคืนเงิน (Cash Rebate) ให้กับกองถ่ายฯ ที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้สร้างสรรค์ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กว่า 100 โครงการ ก่อให้เกิดสร้างงาน สร้างรายได้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 ทางภาครัฐให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อน Soft Power อย่างเต็มที่ โดยในปี 2566 วธ. จะดำเนินงานโครงการเพื่อส่งเสริม Soft Power ความนิยมไทยของประเทศไทย โดยสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลกว่า 1,011.54 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ 58.25 ล้านบาท โครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 893.41 ล้านบาท โครงการด้านการต่างประเทศ 19.88 ล้านบาท และโครงการภาพยนตร์และวีดิทัศน์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิง 40 ล้านบาท คาดสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัฒนธรรมไทย ผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมไปสู่ตลาดต่างประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ชุมชนและประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ วธ.จะขับเคลื่อนและเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้นกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม โดยการสนับสนุนงบประมาณผ่านองค์กรต่างๆ เช่น สภาวิชาชีพ อุตสาหกรรมคอนเทนส์ Soft Power ของไทย ทำให้เกิดการระดมทุน และส่งเสริมเครือข่าย อีกทั้งจะมีการปรับข้อระเบียบและกฎหมายต่างๆ ในด้านมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษี เป็นจูงใจผู้ประกอบให้เกิดการลงทุนมากขึ้น อีกทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศในประเทศไทย โดยงดเว้นการเก็บภาษีนักแสดง มาตรการคืนเงินในการลงทุนที่มีเนื้อหาส่งเสริมภาพลักษณ์ ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้ วธ. ยังจะส่งเสริมเพชรเม็ดงามของไทย ทั้งเยาวชน ศิลปินท้องถิ่น ศิลปินอาชีพ และศิลปินแห่งชาติของไทยที่มีความสามารถโดดเด่น ให้ได้รับการสนับสนุน เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับศิลปินไทย ซึ่งทำให้ Soft Power ของไทยโดดเด่นไปสู่ระดับโลก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ส่งผลทางบวกทางด้านเศรษฐกิจของไทย
รมว. วธ. กล่าวอีกด้วยว่า รัฐบาล โดยคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศด้วย Soft Power ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และกระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จะทำให้ทิศทางของ Soft Power จะชัดเจนมากขึ้น โดยจะดำเนินงาน ผ่านโครงการสำคัญต่างๆ เช่น การจัดตั้งกองทุน Soft Power ของไทยทำให้เกิดการร่วมลงทุนมากขึ้น และการดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ให้กับผู้สร้าง เป็นต้น รวมทั้ง ในปีพ.ศ. 2566 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดงานด้าน Soft Power อาทิ การประชุม ระดมความรู้ แชร์ประสบการณ์จากผู้สร้างจากฮอลลีวูด การแลกเปลี่ยนความรู้กันระหว่างบุคคลในอุตสาหกรรม และการประชุมสัมมนาต่างๆ เรื่อง Soft Power เศรษฐกิจสร้างสรรค์ อีกด้วย