‘ซีเค พาวเวอร์’ ขึ้นทำเนียบบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน ติดโผหุ้นกลุ่ม ESG Emerging ประจำปี 65

สถาบันไทยพัฒน์ ชื่นชม บมจ. ซีเค พาวเวอร์ มีการดำเนินงานที่โดดเด่นในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ตามเกณฑ์ ESG Universal สอดคล้องเทรนด์โลกที่นักลงทุนให้ความสนใจ

กรุงเทพฯ (27 ก.ย. 65) – บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดและมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรที่ต่ำที่สุดรายหนึ่งของภูมิภาค ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอยู่ในทำเนียบบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน (ESG Emerging List) และเป็นหลักทรัพย์ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 จากการประเมิน ESG Rating โดยสถาบันไทยพัฒน์ และเป็นบริษัทเดียวใน SET กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในESG Emerging List ในปี 2565 นี้

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “CKPower ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมไปถึงการปรับปรุงพัฒนาธุรกิจหลัก (Core Business) ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและมีธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้กำหนดให้เป็นวิสัยทัศน์หลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัท”

“เป็นที่น่าภูมิใจว่าหุ้น CKP ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในทำเนียบ ‘บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน’ หรือ ESG Emerging List และเป็นหลักทรัพย์ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปีล่าสุด (2565) ซึ่งจัดทำโดยสถาบันไทยพัฒน์ องค์กรที่ได้รวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนเพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักกับปัจจัยด้าน Sustainable Investment (การลงทุนที่ยั่งยืน)

โดยพิจารณาผลการดำเนินงานด้าน ESG ควบคู่กับผลการดำเนินงานทางการเงิน ทั้งในมิติของความเสี่ยง ศักยภาพในการแข่งขัน และการได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นเทรนด์การลงทุนทั่วโลกที่นักลงทุนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”นายธนวัฒน์ กล่าว

CKPower มุ่งเน้นในการส่งเสริมการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ซึ่งก่อให้เกิดมลภาวะในระดับต่ำ ตลอดจนใช้ทรัพยากรการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ CKPower มีกระบวนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำของบริษัทได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลก โดยคำนึงถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาพลังงานสะอาด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ภายใน พ.ศ. 2593

สำหรับการประเมิน ESG Emerging และ ESG100 ในปี 2565 นี้ สถาบันไทยพัฒน์ได้ทำการประเมินบริษัทจดทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 851 หลักทรัพย์ โดยใช้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ ESG จากข้อมูลกว่า 15,760 จุดข้อมูลซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาจะคัดเลือกจากหลักทรัพย์ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG ที่ปรากฏในการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงการดำเนินงานที่สะท้อนปัจจัยด้าน ESG ในมิติต่างๆ โดย CKPower เป็นบริษัทเดียวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศภายใต้กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน ESG Emerging List ในปี 2565 นี้

“ความสำเร็จครั้งนี้ ตอกย้ำความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานและการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพของผู้บริหาร และทีมงาน CKPower ทุกคน นโยบายที่ชัดเจนของเราที่มุ่งเน้นในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดประเภทต่างๆ ตลอดจนการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมีมาตรฐานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอย่างยั่งยืน CKPower พร้อมก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำที่สุดรายหนึ่ง” นายธนวัฒน์ กล่าว

ปัจจุบันภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ถูกกล่าวถึงในระดับโลก ส่งผลให้หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยเริ่มรณรงค์ให้ภาครัฐ และเอกชน รวมถึงประชาชนหันมาใส่ใจดูแลทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมกันดูแลและรับผิดชอบการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วนและเป็นวาระสำคัญของประเทศ